23 เมษา
มาพบหมอรุ้งก่อนเวลานัด หมอนัดตรวจติดตามผลหลังจากขึ้นเครื่องบิน การขึ้นเครื่องบินไมีปัญหาอะไร ผ่านไปด้วยดี กินซูโดไปแค่ครั้งเดียว ไม่มีอาการปวดหู อาการหูอื้อยังคงมีเป็นครั้งคราว เสียงวี๊ดในหูยังมีแต่เบาลงบ้างแล้ว ไม่ต้องกินยาแก้แพ้
26 เมษา
มาหาหมอENT คนใหม่ เพราะคอเจ็บ เสมหะเขียว น้ำมูกเขียว ตาแดง หมอให้ยาฆ่าเชื้อมากิน 10วัน ถ้าอาการดีแล้ว 7วันก้อหยุดได้ยา Cravit มา
**กินไปได้แปดวันลืมกินไปสองวันจึงหยุดกินไป หมดวันสุดท้าย 3พค
27 เมษา
มาหาหมอตา เนื่องจากเมื่อวานมาค่ำๆ คลินิคตาปิดไปแล้ว อาการคือตาแดงมาก มีน้ำเมือกเยิ้มปิดตาจนเปิดไม่ได้ ต้องคอยเอาน้ำเกลือเช็ดออกทุกชั่วโมง Tabrodex เภสัชบอกว่าหยอดต่อเนื่องสัก3วัน ถ้าดีแล้วค่อยหยุด
7 พค
มีนัดกับหมอบุญสามที่รามา หมอดูหูให้ บอกว่า ไม่มีน้ำ อาการหูอื้ออาจเกิดได้เป็นปกติสำหรับคนฉายแสง น้ำเกลือเหลือเยอะ นัดอีกที6เดือน
11 พค
มีอาการหูอื้อตั้งแต่เมื่อคืน เช้ามาปวดหูนิดๆ เหมือนมีน้ำคั่งเยอะ ขับรถไปโคราช หูเริ่มปวดมากขึ้น พยายามไล่น้ำออก ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จนเวลา 19:30 เหมือนจะเริ่มทนไม่ไหว รีบไปหาหมอ รพ กรุงเทพโคราช เอาประวัติเก่าที่จดไว้ในนี้ให้หมออ่าน ได้ยามา1ชุด
เสียงดังกรุปกรับในหูที่ผ่านเคยสงสัยว่ามากจากไหน วันนี้เริ่มชัดละ มันคือเสียงแก้วหูถูกน้ำดันให้พองออกพอมันโดนไปถึงจุดนึงจะดังกรุปแล้วก้อปวด พอโดนดันอีกจังหวะจะดังอีกกรุปแล้วก้อปวด ถ้ารอให้ดังบ่อยๆ จะเป็นเหมือนเมื่อตอนเย็นคือปวดมาก
12 พค
ยังมีไข้แต่อาการปวดในแก้วหูลดลงมานิดนึง ยังไม่สามารถเป่าไล่น้ำได้ เพราะจะเจ๊บแปล๊บทันที มีอาการปวดร้าวหลังหูเพิ่ม ตำแหน่งคือบริเวณหลังใบหูร้าวยาวลงมาตรงๆถึงคอข้างกรามขากรรไกร
13 พค
ยังมีไข้อุ่นๆ เริ่มสงสัยว่ายาฆ่าเชื้อนี้ใช้ได้ตรงกับโรคไหม เพราะที่เคยกิน เวลาปวดหูมากๆ กินยาเข้าวันที่สาม อาการจะหายไปเกือบหมด จะเหลือเพียงน้ำที่ค้างในหู แต่รอบนี้ยังคงเจ็บอยู่เรื่อยๆ
คำถามที่สงสัยคือ
- อาการระบมมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไหม
- ควรเจาะแก้วหูใส่ท่อเลยไหม
14 พค
ไปหาหมอเพือ่ดูอาการเพิ่มเติมเพราะทาง รพ ไทยนครินทร์ จะมีประวัติเก่าเยอะกว่า ประเมินความเสี่ยงได้มากกว่า มีข้อสังเกตุที่คุยกับหมอไว้คือ อาการหูติดเชื้อทั้งสองครั้งเป็นหลังจากที่เป็นหวัดประมาณ14วัน โดยระยะการกินยาคือ10วัน หมอแนะนำว่า ครั้งต่อไปที่เป็นหวัด ให้ล้างจมูกเบาแรงลง เพื่อป้องกันเชื้อโรคกระจายเข้าช่องหู และงดการเป่าหูไล่น้ำออกไปก่อนในช่วงนั้น
ส่องกล้องดูแล้วยังมีอาการแก้วหูแดง เจ็บแปลบ แต่ไม่ปวดจากน้ำในหูดัน คุณหมอบอกว่าถ้าเจาะใส่ท่ออาจจะไม่ตอบโจทย์เพราะการเจาะคือการระบายเซรั่มที่เกิดจากเนื้อเยื่อในหูใสๆ แต่รอบนี้เกิดจากน้ำจำพวกหนองติดเชื้อมากกว่า แนะนำว่าให้ดูอาการจากการกินยาไปก่อน
เปลี่ยนยาเป็น Avelox จากการหาข้อมูล ยาตัวนี้เป็นยากลุ่ม ฟลูออโร ควิโนโลน รุ่นที่4 ชื่อตัวยา moxifloxacin อยู่ในรุ่นเดียวกับ sitafloxacin ที่เคยกินตอนหาหมอทางเดินปัสสาวะ แต่ Avelox เน้นไปเชื้อในทางเดินหายใจเป็นหลัก
18 พค
เสาร์อาทิตย์นี้นอนทั้งวัน มีอาการมึนๆ ตื้อๆที่หัว เพลียๆ หายใจไม่คล่อง จริงๆรู้สึกเพลียมาได้ 2-3อาทิตย์แล้ว ทำงานกลับบ้านคือต้องนอน1ตื่น แล้วถึงกินข้าวเย็นได้
19 พค
วันนี้หมอนัดดูอาการ ตรวจกันด้วยความรวดเร็ว อาการดีขึ้นแต่ยังไม่หายสนิท มีอาการเจ็บที่ขอบแก้วหูด้านบนเวลาเรอหรือจาม หมอบอกว่าไม่แดงแล้วแต่ยังมีน้ำเหลือ กินยาชุดเดิมไปอีก1อาทิตย์ ถ้าเป่าหูแล้วเจ็บให้ทำเบาๆหรือยังไม่ต้องเป่าไปก่อน แต่เล่าให้หมอฟังว่าเวลาเป่าแล้วจะชอบหน้ามืดวูบไป10วิ ถ้ายืนคือต้องหากำแพงจับไม่งั้นบ้านหมุน คุณหมอให้เอาไปเล่ากับหมอรังสีด้วยว่าเป็นเคสผลข้างเคียงจากฉายแสงไหม
22 พค
อาการปวดหูดีขึ้นมาก แทบไม่มีอาการปวดตุ้บๆเลย เหลือแค่ปวดเกร็งรอบรูหุและกกหู คาดว่าเป็นที่กล้ามเนื้อเกร็ง
23 พค
เสียงวี้ดกลับมาชัดเจนอีกแล้ว เวลาเผลอนอนทับหูซ้าย สังเกตได้ว่าตอนตื่นมาจะปวดกกหูและรอบหูชัดเจน
26 พค
มีนัดกับหมอ หมอดูแล้วน้ำในหูแทบไม่มีแล้ว อาการหูอื้อเหลือ 50% หมอถามว่าจะเทสการได้ยินไหม บอกหมอว่าไม่ต้องมั้งเพราะตอนนี้ประเมิรตัวเองพอจะได้ผลใกล้เคียงกับที่เคยเทสสามรอบก่อนหน้า หมอบอกว่าหยุดยาฆ่าเชื้อได้
28 พค
การได้ยินดีขึ้นเป็น70%แล้ว เสียงยังคงชัดอยู่ เหมือนว่าเสียงวี้ดจะมาตอนแก้วหูมันขยับกลับเข้าที่แล้วเข้าไม่สุดดี ประมาณนั้นมั้ง
29 พค
เผลอนอนทับหูซ้าย ตื่นมามีอาการปวดกล้ามเนื้อในช่วงหู อาการคล้ายเป็นเหน็บที่น่อง จะเจ็บกึกที่กล้ามเนื้อรอบรูหู ไม่ได้เจ็บที่ตัวเยื่อแก้วหู บางครั้งก้อเจ็บที่จุดหลังแก้วหู ถ้าให้เดาน่าจะเป็นบริเวณ ท่อระบายอากาศหูชั้นใน
30 พค
ไปพบหมอฉายแสงที่รามา ตามนัดรอบ 6เดือน แจ้งหมอว่ามีอาการหูอื้อ หมอบอกว่าหูอื้อมักจะเป็นเรื้อรัง ถ้ามีน้ำก็ให้ไปเจาะออกแค่นั้นเลย ซึ่งแปลว่าอาการติดเชื้อง่าย หูอื้อง่าย การไปเจาะน้ำออก จะเป็นกิจวัตรปกติไป คลำต่อมน้ำเหลืองปกติดี ดูปริมาณน้ำลายปกติดี หมอนัดทำ MRI รอบ1ปี ตอนเดือน พย
15 มิย
อาการหูอื้อลดลงเหลือสัก 5-10% เสียงวี้ดยังมีค้างตลอด 24ชั่วโมง มี improve เพิ่มมา1อย่างคือน้ำมูกหลักคอสามารถไหลลงคอเองได้แล้ว ไม่เกาะค้างที่ผนัง ยังคงมีน้ำเหลืองเหนียวๆ ออกมาจากหลังคอ แต่น้อยลงไปเยอะแล้ว
