ปีนี้เป็นโรคหูอักเสบทั้งปี เริ่มตั้งแต่ไปอินเดียมาตอนคริสมาส ปีที่แล้ว ไปเจออากาศหนาวขั้น -2 มา เดิมทีหูก้อไม่เป็นอะไรเลยตั้งแต่ฉายแสงปี 2023 พอมาเจออากาศเย็น เจอฝุ่น เจอแพ้ มีอาการน้ำคั่งในหู หูอักเสบ หูติดเชื้อมารุม
26 ธค 2023 เริ่มมีอาการหูอื้อ น้ำมูกไหลเยิ้มๆ มีเลือดค้างที่หลังคอ เป็นน้ำเหลืองใสบ้างเป็นลิ่มบ้าง
5 มค 2024 ติดเชื้อไซนัส กินยาฆ่าเชื้อ levoflox 10วัน
18 มค 2024 เจ็บรากฟัน
22 มค 2024 ปวดหู มีน้ำค้างในหู มีไข้ กินยาฆ่าเชื้อ MeiAct 14วัน / ห่างจากรอบที่แล้ว 17วัน
17 กพ 2024 ปวดหู น้ำเหลืองเต็มหู กินยาฆ่าเชื้อ Augmentin / ห่างจากรอบที่แล้ว 23วัน
25 กพ 2024 อาการปวดไม่หาย เปลี่ยนยาเป็น กินยาฆ่าเชื้อ Avelox / ห่างจากรอบที่แล้ว 11วัน
2 มีค 2024 เจาะเอาน้ำในหูออกมาได้ 3ซีซี
7 มีค 2024 น้ำแห้งได้ไม่กี่วัน หูเริ่มมีน้ำสะสมอีกแล้ว
29 มีค 2024 เจ็บรากฟันลดลง
26 เมย 2024 คอเจ็บ น้ำมูกเขียว หูไม่เป็นอะไร ติดเชื้อหลังจากกลับจากญี่ปุ่น กินยาฆ่าเชื้อ Cravit 8วัน / ห่างจากรอบที่แล้ว 61วัน
27 เมย 2024 ตาแดงติดเชื้อ ได้ยา Tabrodex 3 วัน
11 พค 2024 เป็นไข้ ปวดหู น้ำคั่งเยอะ ไปหาหมอฉุกเฉิน กินยาฆ่าเชื้อ Augmentin / ห่างจากรอบที่แล้ว 15วัน
14 พค 2024 อาการปวดไม่หาย เปลี่ยนยาเป็น กินยาฆ่าเชื้อ Avelox
6 กค 2024 สำลักข้าว
7 กค 2024 หูอื้อ น้ำมูกเยอะ แก้วหูขยับ น้ำคั่งในหู รอบนี้ไม่ต้องกินยาฆ่าเชื้อ
15 กค 2024 น้ำในหูรอบนี้เป็นน้ำเหลืองใส ไม่ข้น ใช้เป่าแล้วหายได้ สุดท้ายเป่าจนมีก้อนแข็งๆเหนียวๆ หลุดออกมาจากท่อระบายแรงดัน น้ำในหูลดลงได้ไวขึ้นเหลือประมาณ 5%
19 สค 2024 มีอาการแพ้ฝุ่น แพ้อาการ ไม่ได้สนใจ
24 สค 2024 น้ำคั่งเต็มหู ซื้อกล้องมาส่องหู เจอว่าหูแดงบวม กินยาฆ่าเชื้อ DarFlox / ห่างจากรอบที่แล้ว 105วัน
7 ตค 2024 เมือกเหนียวๆหลุดมาจากหู อาการหูอื้อลดลงทันที
19 ตค 2024 คันแพ้ฝุ่น แพ้อาการ
21 ตค 2024 หูอื้อน้ำคั่ง 50%
24 ตค 2024 ส่องกล้องหูแดงไปหาหมอ กินยาฆ่าเชื้อ DarFlox / ห่างจากรอบที่แล้ว 61วัน
31 ตค 2024 หูแห้งเหลือ 5-10%
6 พย 2024 มีเมือกหลุดออกมาจากหู
13 พย 2024 หูยังมีน้ำบ้าง แต่ถือว่าหูแห้งที่สุดในรอบปี
14 พย 2024 ไปทำ MRI น้ำน้อยแต่หูดังก้องๆ
19 พย 2024 ติดหวัดจากคนในบ้าน คอแดง น้ำมูกเยอะ ไซนัสอักเสบ แต่หูไม่แดง ไม่มีน้ำในหู กินยาฆ่าเชื้อ DarFlox / ห่างจากรอบที่แล้ว 26วัน
20 พย 2024 คอเจ็บแดง เริ่มผสมน้ำเกลือกลั้วคอ
22 พย 2024 เริ่มใส่หมวก ลดน้ำมูก เป็นบางเวลา
29 พย 2024 เปลี่ยนมาใส่หมวก ตลอดเวลา
9 ธค 2024 อากาศเย็นน้ำมูกไหล น้ำในหูกลับมา30%
15 ธค 2024 หูแห้งดี หูไม่อื้อ แต่มีตึงๆ เหมือนจะติดเชื้อ
19 ธค 2024 สรุปว่าไม่ติดเชื้อ แค่กล้ามเนื้อขากรรไกรขัดยอก
นับถึง 31 ธค ไม่ติดเชื้อมาแล้ว 41 วัน
จบปี 2024 แบบทุลักทุเล ได้เรียนรู้เกี่ยวกับหูมากขึ้น
หมายเหตุ
- ความสัมพันธ์ระหว่างคันแพ้อาการก่อนมีอาการหูแดงติดเชื้อ มี correlation ค่อนข้างเยอะ คือมาพร้อมกันเกือบทุกครั้ง
- เนื่องจากท่อปรับแรงดัน น่าจะพัง ดังนั้น เวลาล้างจมูกให้เปลี่ยนมาเป็นขวดบีบ หรือใช้ขวดน้ำเกลือแรงดึงดูดโลกแทน จะไม่แรงเกินไปจนดันเชื้อโรคเข้าหู
- เพิ่มขั้นตอน การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ ช่วยล้างเศษอาหารหลังผนังคอ แทนการล้างจมูกระหว่างมื้ออาหาร
- อย่านอนตะแคงซ้ายทับหูซ้าย เพราะจะก่อ ให้เกิดการคั่งของน้ำในหูได้
7 มค
มาอธิบายแบบมั่วๆ จากอาการที่เป็นในอดีต ให้ตัวเองอ่านในอนาคต
- อาการในรอบปีจะมีสองอย่างคือ หูอื้อ กับเสียงวี๊ดในหู ซึ่งเสียงวี๊ดนี่ดังตลอด24ชม ไม่หายมา1ปีแล้ว
- ส่วนหูอื้อ จากการสังเกต จะมาจากน้ำค้างในหูเยอะ
- น้ำค้างในหูจะมีสาเหตุสิงส่วนคือ น้ำมาใหม่ กับน้ำไม่ไหลออกหรือออกช้าจากท่อตัน
- น้ำมาใหม่จะสัมพันธ์กับน้ำมูกเป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งมาจากการติดเชื้อก่อน ความแตกต่างคือ ถ้ามาจากน้ำมูก จะมาช้าค่อยๆเติมและมีจังหวะลดลงได้ แต่ถ้ามาจากการติดเชื้อ จะมาเร็วแรงและกดหนักๆที่แก้วถึงขั้นปวดมาก
- ส่วนท่อตัน ยังไม่รู้สาเหตุ แต่เดาว่ามาจากน้ำลายเหนียวจับตัวเป็นก้อน
- ที่ผ่านมามักจะมีการติดเชื้อที่หู หลังจากการเป่าหูไล่น้ำ เพราะมีน้ำในหูเยอะ และมักจบลงด้วยการติดเชื้อ
- จากการสังเกตอนุมานว่า เศษอาหาร หรือน้ำลายเหนียวค้างที่คอทำให้ท่อตัน จากนั้นน้ำไม่ไหลออกค้างในหู พอเป่าลมไล่น้ำ ทำให้เชื่อโรคจากคอวิ่งเข้าหู สะสมเป็นหูติดเชื้อ
- ช่วงครึ่งปีแรกพอมีน้ำมูก จะพยายามแก้ด้วยการล้างจมูก แต่ยิ่งล้างน้ำยิ่งเยอะ และตามด้วยการติดเชื้อเช่นกัน อ่านเจอว่าการล้างน้ำเกลือจะมีแรงดันให้น้ำเกลือบางส่วนไหลเข้าหู ถ้าบังเอิญคอไม่สะอาด อาจจะมีเชื้อย้อนตามท่อขึ้นไปที่หูได้
- ครึ่งปีหลังพอมีน้ำมูกจะแก้ด้วยการกินยาแก้แพ้ ผลคือน้ำในหูลดลงเร็วกว่า แม้จะยังไม่แห้งทันที
- บังเอิญเดือน พย มีอากาศเย็น จึงหาหมวกไหมพรมมาใส่ ปรากฏว่า น้ำมูกลดลงชัดเจน
- เป็นที่มาของการทำการทดลองสองอย่างคือ ทดลองใส่หมวกตลอดเวลาเพราะในออฟฟิศ เปิดแอร์22องศาเย็นหัวตลอดเวลา และถ้าพลาดมีน้ำมูก ต้องกินยาแก้แพ้ให้เร็วอย่ารอ
- อย่างที่สองคือทดลองใช้น้ำเกลือ2%ผสมเบคกิ้ง2% กลั้วคอ หลังกินข้าว และทุกครั้งที่เหมือนจะมีน้ำลายเหนียวค้างในคอ ผลจากที่ทำมาสองเดือนพบว่า มีน้ำเมือกเหนียว คล้ำๆ หลุดจากคอเป็นระยะ พร้อมกับหูที่แห้งลงเรื่อยๆ แต่เกลือ2%มันแสบและทำให้ปากแห้ง กำลังคิดว่าจะลดเหลือ 1.5%ดีไหม แต่คงเบคกิ้งโซดาไว้ที่2%เท่าเดิมไปสักระยะ
- อย่างที่สามคือหยุดเป่าหู ใช้วิธีขยับขากรรไกรเยอะๆ โดยการอ้าปากให้กว้างที่สุด จากนั้นเยื้องขากรรไกรล่างมาข้างหน้า แล้วตามด้วยกลืนน้ำลาย ช่วงที่อ้าปากสุดๆ จะมีน้ำไหลจากหูมาที่คอ พอกลืนจะดันให้น้ำหลุดออกมา ทำได้ผลทั้งน้ำเหลวและน้ำเมือกก้อน
- อีกตัวที่ควรบันทึกไว้คือตอนที่เป็นไซนัสอักเสบ หมอให้ยาอิลิอาดินมาใช้ เจอว่าช่วงที่ใช้ยาหูอื้อน้อยลง น้ำระบายออกได้สะดวกขึ้น หรืออาจจะเพราะบังเอิญด้วยจังหวะนั้นพอดี แต่เพิ่มขั้นตอนไว้ว่าถ้าหูอื้อหนัก ให้ลองใช้ยาอิลิอาดีนข้างเดียวแล้วบริหารขากรรไกร เพื่อช่วยระบายน้ำออกให้ไวที่สุด
- ลำดับการล้างก็มีผล ควรล้างคอให้เสร็จก่อนถึงค่อยล้างจมูก เพราะสมมติฐานข้างบนคือแรงดันน้ำอาจย้อนเข้าหู ดังนั้นถ้าคอไม่สะอาดแล้วล้างจมูกก่อน ถึงทำให้ติดเชื้อซ้ำซ้อนบ่อยมาก ดูจากสถิติติดเชื้อข้างบนได้
- การล้างจมูกก็จะมีสองแบบคือแบบล้างเข้าซ้ายออกขวาใช้แรงดันบีบให้ทะลุ แบบนี้เหมาะกับเป็นภูมิแพ้ไม่มีเชื้อโรค กับเข้าซ้ายออกซ้ายคล้ายๆกับการกลั้วคอ แบบนี้เหมาะกับตอนเป็นหวัดจะทำให้เชื้อโรคไม่แพร่กระจายไปยังโพรงไซนัส หรือหูชั้นกลาง
- นอกจากนี้ยังพบว่าคอด้านซ้าย หลังกกหู ปลายกรามขากรรไกร มีพังผืดมากกว่าข้างขวา นี่อาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ท่อตัน
- เดี๋ยวบันทึกไว้เป็นกรณีศึกษาเรื่อยๆ
