25 พค
จากวันที่ 5 เมษา ถึงวันนี้คือ 50 วัน กลับมาติดเชื้ออีกแล้ว แต่รอบนี้ไม่รุนแรง น่าจะติดเชื้อตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนด้วยซ้ำ จุดสังเกตุคือ ตอนเช้าขาก น้ำมูกหลังคอ ได้น้ำมูกออกมาผสมกับก้อนสีเหลืองแกมเขียว ลักษณะไม่เหมือนเสมหะแต่เป็นเหมือนเมือกน้ำเหลืองสะสมจับตัวกันเป็นก้อนมากกว่
ตอนเย็นจึงรีบไปหาหมอกลัวว่าจะติดเชื้ออีก และก็เป็นอย่างที่คิดคือมีน้ำเมือกเหลืองและผนังจมูกแดง หมอให้ยาซิโทแมก บอกว่าลองเปลี่ยนกลุ่มยาดูบ้างเพราะอาการไม่รุนแรง อาจจะเป็นเชื้อที่หลงเหลือจากกลุ่มยารอบที่แล้วที่แล้วไม่รองรับ กินครั้งละสองเม็ดจำนวนสามวัน แล้วอาทิตยห์ลองสังเกตอาการใหม่
วันนี้ต้องส่องกล้องสองรอบ รอบแรกใช้กล้องแบบท่อเหล็ก เสียบเข้าไปเจ็บมาก จนร้องขอให้หมอช่วยเปลี่ยนเป็นท่ออ่อน กล่องท่อเหล็กเวลาหมองัดเพื่อหามุมส่องมันจะไปเบียดเนื้อเยื่อทีบวมแล้วเจ็บแบบเหมือนกดแผลที่เป็นหนอง
หมอแจ้งว่ากล้องมีสองแบบ แบบท่อเหล็กจะเหมาะกับการสอดแบบสองข้างเพื่อตัดชิ้นเนื้อหรือดูดแผลดูดหนอง ส่วนท่ออ่อนจะทำได้แค่ดูอย่างเดียว
ตกค่ำส่องหู หูปกติ ไม่แดงไม่มีน้ำ
จมูกข้าง Right
26 พค
เช้านี้เมือกเหลืองใสหนา ออกมาเยอะมากขึ้น ลักษณะเป็นกระจุกสีเข้มเหมือนวุ้น แต่ไม่เป็นสีเขียว
ค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าให้เดาจากอาการตัวเองคือเป็นน้ำจากในหูไหลลงมา เพราะหูมีอาการปวดกล้ามเนื้อตึงๆรอบรูหูมาหลายวันแล้ว คงเป็นอาการอักเสบแบบไหนสักอย่าง ประกอบกับช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใส่หมวก เนื่องจากอากาศร้อน แต่พอมีฝนตกทำให้อากาศเย็นแบบไม่รู้ตัว ทำให้ลืมใส่หมวกหลายครั้ง มีอาการเจ็บตึงเพิ่มขึ้นที่รูท่อปรับแรงดัน ตรงกับอาการเมือกเหลือง
การล้างน้ำเกลือช่วงหลังๆ ก้อหย่อนยาน ล้างแค่คอไม่ได้หงายเยอะให้ถึงท่อปรับแรงดัน เช้านี้ เงยหน้าเยอะๆเหมือนที่เคยทำ ได้น้ำเมือกเหลืองออกมาอีกพอสมควร
28 พค
กินยาครบไปแล้ว3รอบ เช้านี้ น้ำมูกเมือกใสๆจากไซนัส ลดลงแทบไม่มีแล้ว อาการปวดรอบรูหูหายแล้ว ปวดturbinate หน่วงลดลง แต่ยังเหมือนมีอะไรตันอยู่บางครั้ง เมือกเหลืองหลังคอหายไปแล้ว
29 พค
ปวดตึงๆรอบหู กลับมาอีกแล้ว แต่ยังสังเกตุน้ำมูก ลักษณะน้อยลงไม่เป็นเมือกวุ้นใหญ่ๆ ไม่พบเจอเมือกเหลือง หูมีอาการกุบกับเวลาหายใจ มีเสียงวีดกลับมาชัดเจน
หมายเหตุ
- เมือกวุ้นคือน้ำมูกจากโพรงไซนัส แต่มาเยอะๆ จับเป็นกองๆ ส่วนมากจะเจอตอนแพ้อากาศรุนแรง
- เมือกเหลืองคือเซรั่ม จากโพรงหู ไหลผ่านท่อปรับแรงดันจะไหลออกมาเป็นแผ่นๆ หรือเป็นริ้วๆ ปะปนในน้ำมูกหลังคอ
วันนี้ไปพบหมอฉายแสงด้วย
- หมอคลำต่อมน้ำเหลืองบอกว่ายังไม่เจอก้อนโต พังผืนแถวๆคอถือว่าน้อยๆมาก เมื่อเทียบกับคนอื่น
- ค่าไทรอยด์ยังปกติ แต่ต้องติดตามต่อไป โดยมากเกือบทุกคน หลังฉายแล้ว ต่อมไทรอยด์จะมีอาการฟ่อลงเพราะแสงรังสี ผลกระทบคือต่อมไทรอยด์จะผลิตฮอร์โมนลดลง และต้องกินยาไปตลอดชีวิต
- แจ้งคุณหมอเรื่องหูอักเสบ จมูกอักเสบ หมออธิบายว่าเป็นผลจากรังสีไปฉายโดนท่อปรับแรงดัน ทำให้ท่อบี้แบนและทำให้น้ำระบายไม่ออก
ข้อมูลเสริมจากอินเตอร์เน็ต
- รังสีทำลายเซลล์ผลิตฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ และเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงต่อม ทำให้การผลิตฮอร์โมน T3/T4 ลดลง
- ปริมาณรังสีเฉลี่ย (Mean Dose) ที่ต่อมไทรอยด์ ≥ 45 Gy เพิ่มความเสี่ยงภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ
- ตรวจเลือดวัด TSH, Free T4 ทุก 6–12 เดือน นานถึง 5 ปี หลังรักษา หากพบ TSH สูง (>4.5 μIU/mL) ร่วมกับ Free T4 ต่ำ ให้เริ่มฮอร์โมนทดแทนทันที
- อัตราการเกิดภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ
- 34.8% ใน 12 เดือนหลังรักษา
- 28.6% ใน 24 เดือนหลังรักษา
- 19.1% ใน 10 ปีหลังรักษา
- สังเกตอาการต่อไปนี้ เหนื่อยง่าย น้ำหนักขึ้น ทนหนาวไม่ได้ ผิวแห้ง ซึ่งเป็นสัญญาณไทรอยด์ทำงานต่ำ
2 มิย
กินยาชุด2 หมดไปแล้วเมื่อวานเย็น วันนี้น้ำมูกลดลงไปเยอะ ล้างจมูกแล้วเหลือไม่เยอะ แต่ยังมีปวดหูนิดๆ ปวด turbinate ตึงๆ แต่เริ่มไม่รำคาญติ่งจมูกตันเท่าไหร่แล้ว ประมาณว่าบวมน่าจะลดลง ไม่มีเมือกเหลืองแล้ว ล้างคอก้อไม่ค่อยมีเมือกเหนียวค้าง
5 มิย
วันนี้ไม่ค่อยปวดหูแล้วเหลือตึงๆรอบหูนิดหน่อย ไม่ปวดจมูกด้วย แต่ยังแน่นรูจมูกด้านใน ไม่มีน้ำมูกแล้ว ไม่มีเมือกเหลืองแล้ว น้อยจนลืมล้างจมูกตอนเช้า
.








