Thursday, July 18, 2024

NPC ตอนที่38 เตรียมลำไส้ส่องกล้อง

 16 กค

เริ่มการเตรียมตัว 2 วันแรก ด้วยการกินอาหารอ่อนๆ

ที่โรงอาหารมีร้านต้มเลือดหมู ไปขอซื้อข้าวใส่น้ำแกง+ไข่ต้ม ทางร้านคิด 16 บาท 

มื้อแรกตอนเช้าใส่น้ำส้มสายชูหน่อยพอกินได้

มื้อเที่ยงยังกินได้อยู่

มื้อเย็นกินโจ๊กที่บ้าน


17 กค

วันนี้ก้อกินข้าวต้มไข่อีกวัน ทั้งเช้าและเที่ยง

เย็นกินโจ๊กไข่


18 กค

เช้านี้เปลี่ยนร้านโจ๊ก ได้กินหมู+ไข่

เที่ยงกินน้ำเต้าหู้ 3ถุง

ตอนเย็น 17.00 เริ่มกินยาล้างลำไส้ เป็นยา Niflec 137.155g + Picoprep ผสมน้ำ2ลิตร ดื่ม 200 cc ทุก10นาที จะคำนวณได้ทั้งหมด 11แก้ว

เมื่อผ่านไป1ชม ยาที่กินเข้าไปจะหมด1ขวดพอดี และเกิดอาการปวดท้องถ่าย เมื่อนั่งถ่ายจะได้เป็นน้ำเหลวๆ การถ่ายจะเป็นระลอกตามจังหวะที่ดื่มน้ำเข้าไป ที่น่าสังเกตคือ ไม่มีฉี่ แปลว่าน้ำที่ดื่มไม่ถูกไตดูดกรอง น้ำส่วนใหญ่จะผ่านตรงไปที่ลำไส้ เป็นรอบๆ คล้ายกับการเทน้ำล้างท่อสายยาง รอบแรกๆจะถ่ายมีกากปนสีเหลืองๆ จนรอบที่6จะเริ่มขาวใส และสิ้นสุดในรอบที่7 น้อยกว่าที่ดื่มเข้าไปที่11รอบ เดาว่ารอบแรกๆอาจจะไปกองรวมกัน

พอถ่ายมากๆ มีอาการแสบรูทวารและปลายทวารบวม ต้องไปเอายาเก่ามาทา



19 กค

หมอนัดส่องกล้องเวลา 10โมงเช้า แต่ต้องไปให้ถึงเวลา 8โมงเช้าเพื่อทำเอกสารและเตรียมตัวกับวิสัญญี

ปรากฏว่าลำไส้ยังไม่สะอาดโดยสังเกตจากถ่ายเมื่อรอบเช้าตีห้า ยังมีกากปนเลยต้องไปสวนล้างอีก1รอบ รอบนี้เป็นการเอาน้ำเข้าทางทวารโดยตรง ปล่อยให้น้ำยาไหลไปถึงลำไส้ส่วนต้นแล้วค่อยปล่อยถ่าย การกินยาคือล้างจากสำไส้เล็กลงมา สวนถ่ายคือล้างลำไส้ใหญ่ขึ้นไป

จากนั้นไปเจาะเส้นเพื่อให้น้ำเกลือ ต้องเจาะสองรอบ ความรู้ใหม่คือ ถ้าอดน้ำอดอาหารมา จะทำให้เส้นเลือดลีบ เจาะยาก รูแรกเจาะแล้วแตก ต้องพักแล้วเจาะใหม่ อากาศห้องผ่าตัดหนาวมาก น้ำมูกไหลไม่หยุดเลย

จากนั้นไปรอในห้องส่องกล้องจัดท่าจัดทาง พอหมอเข้ามาบอกว่าจะเริ่มทำ ลืมตาอีกทีคือเสรจแล้ว ไปกินแล้วมาฟังผลโดยรวมๆ ลำไส้เรียบดีไม่มีผิวขรุขระ มีติ่งเนื้อ3จุดหมอตัดออกให้หมอพร้อมส่งตรวจ biopsy อัลตร้าซาวน์ช่องท้องไม่เจออะไร ตรวจเลือกการทำงานของตับไม่เจออะไร สรุปว่าลำไส้ทำงานผิดปกติเพราะแปรปรวน คำว่าแปรปรวนคือทำงานผิดไปเพราะพฤติกรรม ต้องปรับเปลี่ยนออกกำลังและลดความเครียด การใช้ยาคือปรับให้ทำงานตามจังหวะของยาแต่ถ้าจะให้หายและทำงานปกติเองต้องเริ่มจากภายใน








ค่าตรวจแพงมาก


28 กค

อาการหูอื้อยังคงเหลืออยู่ประมาณ 5-10% แต่เสียงวี๊ดๆในหูยังคงดังค้างตลอด24ชม ไม่หายไป อาการแน่นในรูหูยังมีบ้างเป็นครั้งคราว แก้วหูขยับเองได้บ่อยขึ้น


02 สค

นัดติดตามอาการ และนัดฟังผลชิ้นเนื้อ ได้ความว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง สรุปอาการที่เป็นคือท้องอืด ลำไส้ไม่ขยับตัว น่าจะมาจาก IBS คุณหมอทำการปรับยาใหม่เป็น RESOLOR 1mg

16 สค

อาการมวนท้องดีขึ้นแต่ยังท้องผูก รอบนี้ปรับยานิดหน่อย แล้วนัดอีกที 1 เดือนเลย






Sunday, July 7, 2024

NPC ตอนที่37 สำลักอาหาร จะติดเชื้อในหูอีกไหม

 6 กค

กินกระเพาะปลาตอนเช้า กลืนผิดจังหวะสำลัก ตอนแรกคิดว่าสำลักปรกติ แต่สักพักน้ำมูกไหล มีซุปปนออกมากับน้ำมูก แปลว่าที่สำลักเมื่อเช้าขึ้นไปถึงโพรงจมูก จึงรีบทำการล้างจมูกออก และหยุดเป่าหูไล่น้ำตามที่หมอ.ร แนะนำไว้ ป้องกันเศษอาหารทะลุไปที่หู แล้วติดเชื้อมากขึ้น ตกดึกตอนนอนเริ่มหูอื้อเล็กน้อย อากาศเย็นฝนตก

7 กค

เช้ามาหูอื้อมากขึ้น เริ่มมีน้ำมูกเยอะ สั่งน้ำมูกไปสามรอบตอนเช้า และอีกสี่รอบตอนสายๆ ทำการล้างจมูกเพิ่มเติม เริ่มได้ยิน มีเสียงแก้วหูขยับ หูเริ่มตื้อ แต่ยังไม่ปวด ได้ยินเสียงหัวใจเต้นตุ้บๆในหู ตอนนี้ตอนบ่ายรอดูอาการไปก่อนว่าจะมีอาการปวดหูเพิ่มไหม 

บ่ายกว่าๆละ เริ่มแน่นหูมากขึ้น คิดว่าไปหาหมอดีกว่า เผื่อเป็นอะไรจะได้กินยาทัน หมอ.ช ดูหูบอกว่ามีระดับน้ำประมาณ 30% คอไม่แดง คิดว่าน้ำมาจากแพ้อากาศ ยังไม่น่าจะติดเชื้อ ให้ยาแก้แพ้และซูโดลดน้ำมากิน10วัน ถ้ามีอาการอื่นค่อยมาเอายาฆ่าเชื้อ



จากนั้นแวะไปหาหมอลำไส้ทางเดินอาหาร เล่าอาการให้หมอ.น ฟังว่า

  • มีอาการถ่ายผิดปกติมาประมาณ2อาทิตย์ 
  • มีอาการปวดท้องถ่ายปกติ แปลว่าลำไส้น่าจะทำงาน แต่พอเบ่งกลับไม่ออก มีแค่ลมออกมา ปลายทวารไม่เปิดออกง่ายๆแบบที่เคย ต้อง เบ่งแรงเบ่งนาน
  • เบ่งแล้วลำอุจาระไหลออกไม่แรง ลำอุจาระเล็กลงจากที่เคย ปลายลำแห้งแข็ง ผิวมีลักษณะขรุขระหยาบ แต่สีเหลืองสีน้ำตาลปกติ ไม่ดำคล้า
  • ช่วงแรกของการเบ่งจะเจ็บรอบทวารจึงต้องขมิบตัดแบ่ง ทำให้ออกมาเป็นก้อนเล็กๆ
  • ปลายลำบางครั้งมีเมือกแวกซ์สีขาวเคลือบ 
  • ช่วงที่ผ่านมากินผักมากพอสมควร กินแฟลกซี้ดวันละ5ช้อนผสมน้ำผักปั่นเพื่อเพิ่มมวลอุจจาระ แต่ลำที่ออกมายังมีลักษณะแน่นตรงปลาย แต่หลังๆจะยังคงฟูนิ่ม
  • หลังถ่ายจะมีอาการเจ็บที่ปลายรูทวาร เหมือนเจ็บริสีดวง เจ็บค้างทั้งวัน
  • มีอาการปวดท้องถ่ายตุ่ยๆ เบาๆ ไปตลอดวัน เหมือนอยากเข้าห้องน้ำถ่าย
หมอทำการสำรวจก้นเบื้องต้น แจ้งว่ามีอาการลำไส้แปรปรวน ถามว่าทำงานเครียดไหม แต่รวมๆ น่าจะต้องส่องกล้องลำไส้และกระเพาะอาหาร พร้อมทั้งultra sound ช่องท้องไปด้วย นัดทำวันที่10กค ตอนเช้า ใช้เวลาทำ1.5ชั่วโมง พร้อมกับให้ยาถ่ายมาด้วย การทานยาถ่ายให้ทาน forlax10g ควบคู่กับ mucilin5g เพราะการทำงานต่างกันสามารถเสริมการทำงานได้ดีกว่า 








การเตรียมตัวส่องกล้องจะใช้ยาสองตัวเพื่อล้างลำไส้




8 กค
เช้าวันนี้หูอื้อเพิ่มเป็น80% บางจังหวะ90% แต่ที่ต่างจากครั้งก่อนคือไม่ปวดหูด้านใน อัตราการเติมน้ำก้ค่อนข้างช้า และยังพอสามารถไล่น้ำออกได้บ้าง ตอนนี้เริ่มพอจับทางการไล่น้ำได้บ้างแล้ว มีหลายวิธีสลับกันไป
  • อ้าปากให้กว้างที่สุดแล้วรีบกลืนน้ำลาย
  • เยื้องปากมาข้างหน้า เหมือนทำฟันล่างเหยิน แล้วรีบกลืนน้ำลาย
  • ปิดจมูก เป่าลมเข้าหูแล้วรีบกลืนน้ำลาย วิธีนี้ช่วยขยับแก้วหูที่จมน้ำให้ขยับไปมาได้ด้วย ลดการปวดในบ้างจังหวะ
น้ำที่ไหลลงเป็นน้ำสีเหลืองข้นๆ ไม่ใสเหมือนครั้งก่อนๆที่ติดเชื้อ อันนี้เหมือนมาทีละนิดมันเลยเหนียวข้น

9 กค 
วันนี้ลางานอยู่บ้านเตรียมล้างท้อง 
ตอนเย็น รพ โทรมาว่าประกันยังไม่อนุมัต เลยเลือนการส่องกล้องไปก่อน
นัดใหม่เป็นวันที่ 19 กค ต้องเริ่มกระบวนการกินโจ้กใหม่อีกทีวันที่ 16 กค


15 กค
อาการหูอื้อหายไปเยอะแล้ว เหลือประมาณ 5% ล่าสุดมีก้อนเหนียวๆแข็งๆ หลุดออกมา โดยก่อนที่จะหลุดจะรู้สึกเจ็บในหูตรงลำคอ ประมาณว่าแถวๆ ท่อยูสเตเชียน เดาเอาเองว่าก้อนเหนียวในหูค่อยๆไหลออกมา อาการจึงดีขึ้นได้เยอะ