Monday, February 27, 2023

NPC ตอนที่21 สัปดาห์เก็บตก/คีโมครั้งที่6

เนื่องจากมีหยุดฉายแสงไป 1 ครั้งเพราะซ่อมเครื่องกับมี delay คีโมจากที่มีอาการปวดท้องมาก ทำให้ตารางที่วางไว้คลาดเคลื่อนไป จึงต้องมาเก็บตกในอาทิตย์นี้เพิ่มเติม


27 กพ. นอนตื่นสาย ทำให้กินนมเช้าไม่ทัน หายไป1แก้วเลยวันนี้ มื้อเช้ากินโจ้กไข่เสริมนม1แก้ว ลิ้นยังชาอยู่ ในปากมีแผลมากขึ้นอีกแล้ว เจ็บระบมไปทั่วๆ แต่ไม่เจ็บมาก นี่เพราะหยุดยาจีนตอนเย็นไป2วัน(อีกละ) ต้องเลิกทดสอบได้แล้ว เห็นผลทันตาทุกครั้งที่หยุดเลย 

 มีนัดกับหมอฟันบ่าย2 ออกจากบ้านเที่ยงไปจอดรถที่นางเลิ้ง กินข้าวเที่ยงไม่ทันจึงกินนมไป1แก้ว บ่าย3หิวกินนมไปอีก1กระป๋อง นั่งรอฉายแสงวันนี้คนเยอะมากกว่าจะเสร็จ18:00 แสบท้องอีกละกินนมไปอีก1กระป๋อง เวลาที่กินแต่นมจะแสบท้องเหมือนกระเพาะไม่มีอะไรย่อย สูตรการกินแบบข้าวครึ่งนึงนม1แก้วน่าจะลงตัวที่สุดละ เย็นฝืนกินข้าวกับต้มผักใส่วุ้นเส้นคลายแสบท้องไปได้เยอะ

  • หมอฟันบอกว่าฟันไม่ผุแต่แปรงไม่สะอาด (เอิ่มคือมันคลื่นไส้มาก แปรงนานไม่ไหวครับหมอ)
  • นัดอีกที2เดือนเอาฟลูออไรต์ไป3ขวดนะ


28 กพ. มีนัดกับหมอจมูกเช้า+หมอคีโมตอนเย็น+ฉายแสงครั้งสุดท้ายตอนเย็น แปลว่าต้องออกจากบ้านไปหาหมอแล้วกลับมาก่อนเย็นจึงออกไปอีกรอบ long day again

เมื่อคืนนอนตื่นบ่อยมากเจ็บคอจนตื่นต้องจิบน้ำบ่อยๆเล่นเอาเพลียไปทั้งวัน น้ำหนักบ่ายวันนี้เหลือ 56.6  เท่ากับลดไป1กิโล ต้องพยายามกินเพิ่ม มิฉะนั้นค่าเลือดจะตกแล้วทำให้ต้องไปให้เลือด เย็นมาเจอหมอคีโมเพื่อเช็คว่าพรุ่งนี้ให้คีโมได้ไหม

  • ค่าเลือดผ่านปริ่มๆ ค่าไตผ่าน
  • ปากเจ็บเป็นแผลมากขึ้นมาจากที่เติมคีโมเข้าไปอาทิตย์ที่แล้ว
  • ลิ้นชามาจากคีโมเช่นกัน
  • ปกติอาการเจ็บจะพีคสุดตอนท้ายๆ ระบมไปหมดคือช่วงนี้แหละ
  • 2อาทิตย์หลังฉายแสงจะเป็นช่วงเวลา critical ที่จะทำให้ไตวายเพราะปากจะเจ็บมากกินอะไรไม่ได้และชะล่าใจว่าจบคอร์สแล้ว แต่ความจริงรังสีกับคีโมยังทำงานต่อไปอีกระยะ
  • จะส่องกล้องหลังจากนี้1เดือน ตอนนี้ส่องไปไม่เห็นอะไรเพราะมันบวมหมด
  • จะทำmriหลังจากนี้3เดือน
  • หมอบอกว่าตามหลักเมื่อตรวจคราวหน้าควรจะหายแล้วเพราะเป็นระยะต้นๆ ถ้าไม่หายหมอบอกว่าปวดหัวกันเลยทีเดียว
  • ถ้ากินไม่ได้ น้ำหนักลด ค่าเลือดตก ค่าไตพุ่ง อาทิตย์หน้าต้องเรียกมา admit ให้น้ำเกลือให้เลือดกัน





1 มีค. คีโมครั้งสุดท้ายแล้ว กินข้าวให้เรียบร้อยตอน 7โมงกว่าเพื่อออกจากบ้าน8โมงกว่า แต่วันนี้เจอรถติดกว่าจะถึง9โมงกว่า สายกว่าที่คิดแต่ยังพอรับได้ เที่ยงกินโจ้กที่ศูนย์อาหารตามด้วยนมอีก1กระป๋อง เข้าให้ยาตอนเที่ยงครึ่ง บ่าย4เริ่มหิวออกจากห้องยากินนมไป1กระป๋องก่อนกลับบ้าน เย็นกินข้าวกับไข่น้ำตามด้วยน้ำอีก1แก้ว เวลากินนมแสบปากมาก แสบชนิดน้ำตาไหลแต่ก็ต้องทนกินจนหมดแล้วเพื่อทำน้ำหนักและป้องกันค่าเลือดตก หมอบอกว่าเป็นสัปดาห์วิกฤต ต้องกินให้ได้ monitor บ่อยๆ ดูเองที่บ้านให้ดูสองอย่างคือ น้ำหนักเช้าเย็น และดื่มน้ำให้ได้ 2.5ลิตร ทุกวัน!!


2 มีค. รีบตื่นมากินนมเพื่อทำน้ำหนัก คอยังเจ็บมากต่อไป ลิ้นชาเหมือนเดิม พยายามตื่นมาพ่นยาตอนกลางคืน ก็พอช่วยได้นิดหน่อย วันที่กินอาหารได้อร่อยที่สุดคือวันแรกของการให้คีโม ไม่ใช่เพราะคีโมหรอกนะแต่เป็นเพราะคีโมจากรอบที่แล้วมันหมดฤทธิ์ ส่วนของใหม่ที่ให้เมื่อวานยังไม่ทำงาน ท้องไส้ยังไม่ปั่นป่วน วันนี้จะเป็นวันที่กินอาหารได้ง่ายสุด ไม่มวนท้องไม่ปวดท้อง แต่พอพรุ่งนี้ท้องจะเริ่มไม่ย่อยจากนั้นน้ำหนักจะร่วงลง เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นวันที่ต้องอัดอาหารทุกอย่างที่กินได้ให้มากที่สุด แต่มีนัดกับหมอจีนตอนบ่าย กินข้าวเที่ยงไม่ทันก่อนออกจากบ้าน ไปรวบกินตอนกลับบ้านรวดเดียว ข้าวต้มหมูกับนม1แก้ว

หมอจีน

  • ค่าเลือดอาทิตย์นี้ดีกว่าครั้งที่แล้ว ร่างกายกำลังฟื้นตัวช้าๆ
  • แผลในปากผุพอง ให้กินเหล่งเอี้ยงต่ออีก 3ห่อ
  • ยาต้มกินอีก1อาทิตย์



3 มีค. ได้พักออกจากบ้าน1วัน น่าจะมีเวลาเคลียร์เมล์เคลียร์งานที่ค้างเยอะหน่อย

น้ำหนักเช้านี้ 56.3 ขึ้นมาจากที่เมื่อวานกินได้ แผลในปากขยายมากขึ้น แต่ความเจ็บน้อยลง ตัวแผลเริ่มแบนและกระจายลง แปลได้ว่าเริ่มจะหายนิดหน่อยแล้ว เช้ากินข้าวต้มกับไข่เจียว ผัดผักบุ้ง ไม่ค่อยเจ็บแผลที่คอ กินนมตามก็แสบน้องลงแล้ว


4 มีค. เสาร์ผ่านไปกับการกินๆ แล้วก้อนอนๆ หมดไปหนึ่งแบบไม่มีอะไร ปากคอเจ็บเท่าเมื่อวาน กินอะไรทีเจ็บน้ำตาไหล กินเสร็จไปนอนแก้เพลีย การกินยังเป็นเรื่องที่ทรมานที่สุดในแต่ละวัน


5 มีค. อาทิตย์ผ่านอีกหนึ่งวันเช่นกัน ทรมานกับการกินแต่ละมื้อ กินซ้ำๆข้าวต้มมั่งโจ้กมั่ง วนไป เที่ยงกินเส้นเล็กน้ำ กินได้ครึ่งเดียวเพราะเหม็นน้ำมันเจียวสู้กินราเมงไม่ได้ลื่นคอกว่าเยอะ


6 มีค. วันหยุดราชการไม่ต้องทำงาน นั่งๆ นอนๆ




Monday, February 20, 2023

NPC ตอนที่20 สัปดาห์ที่เจ็ดของการฉายแสง/คีโมครั้งที่5

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงสัปดาห์สุดท้ายแล้ว เหลือฉายแสงอีกแค่ 8 ครั้ง กับคีโม 2 ครั้ง ก็จะจบการรักษาแล้ว หลังฉายแสงครบ 33ครั้ง พยาบาลบอกว่าแม้จะหยุดฉายรังสีแล้วจะมีการทำงานของรังสีในระดับเซลล์ต่อไปอีกประมาณ 6-8สัปดาห์ เซลล์ที่หยุดการเติบโตจะค่อยสลายและยุบไปโดยกลไกของร่างกาย เราจะสามารถติดตามผลการรักษาอีกทีคือประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงจะทำ MRI แต่หมอดูคร่าวๆให้แล้วก้อนมันเริ่มเล็กลงไปบางส่วนแล้วแต่ยังไม่ชัดเจนจนฟันธงขนาดนั้น 

คอเริ่มดำมากขึ้นดูน่าเกลียดน่ากลัวจริงเชียว


20 กพ. เช้านี้แผลที่คอเริ่มใหญ่ขึ้น แผลที่ลิ้นเจ็บมากขึ้น มีแผลที่เพดานเพิ่มมาอีก3จุด นี่อาจจะเป็นผลมาจากที่งดยาจีนไป 3-4 วัน ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้ช้า บาดแผลที่เกิดขึ้นมันเลยเยอะสะสมเต็มปากไปหมด

ตื่นมากินนมก่อนเลย1แก้ว อาหารเช้ากินข้าวต้มถั่ว เที่ยงกินโจ้ก บ่ายสามกินนมไป1แก้ว บ่ายๆไปฉายแสงวันนี้คนไม่เยอะได้คิวเร็วมาก ยังไม่ 17:00 เสร็จเรียบร้อยจึงไปเจาะเลือดต่อพรุ่งนี้จะได้เร็วๆ กลับถึงบ้านแค่ 18:30 กินข้าวสวยได้ครึ่งจานแล้วกินนมไปอีกแก้ว อาการปวดท้องไม่มีแต่มีอาการแน่นท้อง นั่งอึนๆมืนๆ ไปจน 21:00 ถึงเริ่มขยับตัวได้ พยายามฝืนกินยาจีนให้ได้เพราะเริ่มรู้ตัวว่าถ้างดอีกคอคงจะเจ็บมากขึ้นแน่ๆ ที่น่าสงสัยคือทำไมต้องเป็นทุกมื้อเย็น หรือเป็นเพราะยาเริ่มหมดฤทธิ์ตอนช่วงเย็นๆ


21 กพ. ตื่นมากับอาการไม่สดชื่น มึนๆ งงๆ ง่วงๆ อาจเพราะเมื่อคืนกว่าจะหายแน่นท้องและได้นอนคือเลยเวลา 23:00 แถมนอนกระสับกระส่ายหลับไม่สนิทอีก อาการหลักๆทั่วไปวันนี้คันผิวหนังที่คอยิบๆ เกาเป็นหมาเลย ลิ้นเจ็บน้อยลง คอเจ็บเท่าเดิม น้ำหนักชั่งได้ 56.6 เริ่มขึ้นแล้ว 

เช้ากินโจ๊กไข่แต่วันนี้กินขิงแล้วแสบปากต้องเขี่ยออก แต่ละวันมีอาการแต่ละอย่างที่ไม่ค่อยซ้ำ เปลี่ยนไปเรื่อยๆเลยแหะ เที่ยงกินข้าวต้มกับข้าวสามอย่าง ค่อยๆเคี้ยวไปกลืนลำบากแต่ต้องพยายามกลืน


วันนี้นัดห้องฉายแสงไว้ 16:00 อาจจะต้องออกจากบ้านเร็วหน่อยเพราะฉายแสงแล้วต้องไปเจอหมอต่อ

ผลเลือดวันนี้





หมอคีโม

  • ประเมินช่องปากที่เป็นแผล ยังพอไหวสำหรับอาทิตย์นี้ แต่เป็นห่วงสำหรับอาทิตย์หน้า
  • ปากน่าจะเจ็บเพิ่มขึ้นในอาทิตย์นี้เพราะเป็นท้ายๆของการฉายแสงแล้ว
  • อาการปากเจ็บจะยังคงอยู่ไปอีกประมาณ2อาทิตย์หลังหยุดการฉายแสง แล้วจะเริ่มดีขึ้น
  • ให้เพิ่มเอนชัวร์เป็น 12ช้อน กิน3มื้อ เสริมจากข้าวปกติ3มื้อ ป้องกันน้ำหนักร่วงแล้วไตวาย


22 กพ. วันนี้ต้องไปให้คีโม ชีวิตจะรีบเร่งหน่อยๆ ตื่นเช้ากินนม1แก้ว ตามด้วยข้าวต้มถ้วยเล็ก1ถ้วย ออกจากบ้าน 08:00 ไปถึงนางเลิ้ง 09:00 นั่งรถต่อไปรามาถึงเวลาประมาณ09:30 ทำเรื่องเข้าระบบเรียบร้อนั่งรอเวลาแล้วไปกินข้าวเที่ยง ได้โจ้กชามกลางมา1ชามกินได้หมดเลย วันนี้เจ็บลิ้นน้อยลงเยอะ เจ็บคอน้อยลงเช่นกัน เพิ่งกลับมากินยาจีนครบได้2วัน อาการกลับมาประคองตัวได้อีกครั้ง อยากจะสรุปฟันธงว่ายาจีนช่วยประคองอาการเห็นได้ชัด พอหยุด4วันแผลเริ่มเจ็บเยอะแต่พอกลับมากินต่อ แผลกลับมาดีขึ้นใหม่

เย็นกินข้าวกับปลาทอด วันนี้ไม่ค่อยแน่นท้องแล้ว พรุ่งนี้หลังคีโมวันแรกอาการน่าจะค่อยๆเริ่มปวดท้องใหม่ต้องระวังการกินให้ตรงเวลาสุดๆ


23 กพ. เช้านี้คอเริ่มเจ็บน้อยลง ลิ้นเจ็บนิดนึงถ้าไม่สังเกตคือไม่เจ็บแล้ว ทำให้กินข้าวได้ปกติขึ้น เช้ากินข้าวต้มถั่วกับไข่ต้ม เที่ยงกินโจ้กหมู เสร็จแล้วรีบออกจากบ้านไปหมอจีน

ไปหาหมอจีน

  • อาการทั่วไปปกติดี
  • ยาชุดที่ใช้อยู่ลงตัวแล้ว
  • แผลในปากคงตัวดี
  • ชีพจรมีแรงดี อวัยวะภายในทำงานดี
  • น่าจะจบการฉายแสงได้ไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว

พบหมอฉายแสง

  • อาการทั่วไปปกติดี ถ้าไม่มีอาการอะไรจะนัดอีกที 20 เมษาเลย
  • อย่าลืมบริหารปากและคอต่อไปอีก 1 เดือน
  • อีกประมาณ 2 อาทิตย์จะมีอาการคอบวมให้นวดคลึงไล่น้ำเหลือง

เย็นอาการปวดท้องมาตามนัดตรงเวลาเป๊ะ ทำให้กินข้าวเย็นไม่ได้อีกละ มื้อเย็นวันนี้ได้แค่นมแก้วนึง

24 กพ. น้ำหนักเช้านี้ 56.3 ไม่ลดอย่างที่คิด มื้อเช้ากินข้าวต้มถั่วไข่ มื้อเที่ยงกินเส้นหมี่ลูกชิ้น การกินอาหารเป็นเรื่องทรมานหลังการคีโมทุกมื้อเลย บ่ายๆ ออกไปฉายแสง เย็นกลับมากินข้าวไม่ได้ ง่วงนอนเหนื่อยหลับยาวตั้งแต่เข้าบ้าน ตื่นมากินนมไปแก้วนึงทนปวดท้องไปอีกพักใหญ่จึงค่อยลุกไปอาบน้ำนอน


เสาร์อาทิตย์ได้พักอยู่บ้านปัญหาเรื่องกินยังกวนใจตลอด อาหารที่กินถ้ามีกลิ่นแรงจะเวียนหัว คลื่นไส้ พาลจะอ้วกตลอด กินได้แต่อาหารที่ไม่มีกลิ่นเช่นข้าวต้ม

25 กพ. ตื่นเช้ารีบชั่งน้ำหนักดู เหลือ55.6 ไปตลาดซื้อของสดนิดหน่อยกลับมากินโจ้กกับนมแก้วนึง เที่ยงกินข้าวหน้าเป็ดที่ไม่รู้รสอะไรเลยกับนมอีกแก้วนึง เย็นกินข้าวสวยกับซุปมันฝรั่งตามด้วยนมอีกแก้วนึง สรุปวันนี้กินนมไป4แก้ว แต่ยาจีนมื้อเย็นกินไม่ไหว

อาการสำลักยังคงเป็นบ่อยๆ นั่งเฉยๆก็สำลักน้ำลายได้ง่ายๆ การกินน้ำยังคงลำบากกลืนได้เป็นคำๆ แผลรอบคอเริ่มลอกเวลาดึงหนังออกมาใต้ผิวจะแสบๆหน่อย ถ้าดึงตัวที่แห้งลอกจะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่



26 กพ. ไม่ค่อยเหม็นอาหารแล้ว แต่มีอาการลิ้นชากินอะไรๆไม่สะดวกแถมมีอาการมวนท้องเล็กน้อย การกินยังเป็นเรื่องทรมานในแต่ละวัน อาหารที่กินวันนี้ กินข้าวต้มปลาแห้งผัดผักได้1ถ้วย เที่ยงกินโจ้กไข่ บ่ายเวียนหัว นั่งๆนอนๆ แต่ไม่หลับ เย็นกินข้าวสวยกับมันฝรั่งต้ม ตามด้วยนมอีกแก้ว หมดไปอีกหนึ่งวันอันแสนน่าเบื่อ




Monday, February 13, 2023

NPC ตอนที่19 สัปดาห์ที่หกของการฉายแสง

เหลืออีกแค่สองอาทิตย์ก็จะจบการฉายแสงแล้ว ส่วนคีโมเหลืออีกสองครั้งแต่จะมีอาการข้างเคียงไปราวๆสามสัปดาห์


13 กพ. เริ่มต้นแผนการกินใหม่ด้วยการซื้อไข่ขาวผงเอามาชงดื่นแทนการกินไข่ขาวฟองที่กินได้แค่ไม่กี่วันก็เอียนไปหมด มีแผลที่โคนลิ้นเกิดขึ้นมา 2 จุด ทำให้กินข้าวได้ลำบากขึ้น ต้องพยายามทายาบ่อยๆ เอาให้หายเร็วๆ มิฉะนั้นจะกินข้าวได้น้อยลง แผลที่ลิ้นจะแย่กว่าที่แผลที่แก้มเพราะมันเจ็บตลอดเวลาที่กินแม้กระทั่งน้ำ เช้ากินข้าวต้มถั่วเหมือนเดิม เที่ยงกินมักกะโรนีได้แค่ครึ่งถ้วยเลยต้องกินนมเพิ่มอีก1แก้ว เย็นกินข้าวกับต้มฟักครึ่งจานตามด้วยนมอีก1แก้ว ชั่งน้ำหนักตอนเย็นได้ 57.2


14 กพ. เช้านี้แผลที่ลิ้นสองจุดบานใหญ่มารวมกันเป็นจุดเดียวที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้เจ็บระบมไปหมดกว่าจะกินข้าวต้มหมดชามใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ชั่งน้ำหนักเช้าได้ 56.2 ถือว่าไม่แย่น้ำสำหรับการทำน้ำหนักเพื่อตรวจเลือดพรุ่งนี้ ปัญหาหลักตอนนี้ไม่ใช่เรื่องแผลแต่เป็นเรื่องเบื่ออาหาร เห็นอะไรก็ไม่อยากกินไปหมด เห็นอาหารแล้วเอียน คิดเรื่องกินแล้วจิตตก ส่วนหนึ่งเพราะรสชาติอาหารไม่มีเวลากินอะไรที่มันกลืนง่ายๆซ้ำๆบ่อยๆ จะกลายเป็นความเคยชินและความทรงจำที่แย่ พอมื้อต่อไปต้องกินอะไรที่รสชาติมันแย่ๆ ร่างกายก็จะต่อต้านออกมาในแบบไม่กิน กินไม่ได้ กินแล้วปฏิเสธ ส่วนรอยไหม้รอบคอเริ่มใหญ่ขึ้น เจ็บมากขึ้น และผิวหนังตึงตลอดเวลา รวมทั้งคันด้วย เวลาหันซ้ายหันขวาต้องระวังคอไปขูดกับคอเสื้อ อีกสักพักคงจะดีขึ้น

ตอนเย็นกลับบ้านช้ามาก กว่าจะได้กินข้าว 19:40 กินเสร็จปวดท้องไปหมดอาการเก่ากลับมาก กว่ากระเพาะจะคลายปวดล่อไป 23:00 เล่นเอาเหนื่อยเลย


15 กพ. เป็นวันที่วุ่นวายเรื่องกระเพาะมากที่สุด ตอนนี้ปัญหาใหม่คือ กินก็ปวด ไม่กินก็ปวด เรื่องหิวกับอิ่มไม่ต้องคุยเพราะไม่อยากกินเป็นทุนเดิม เช้ากินข้าวตุ๋นได้นิดหน่อย เที่ยงกินข้าวต้มตามด้วยนม กินเสร็จปวดท้องไปหมด บ่ายสามก่อนออกจากบ้านก็กินนมไปอีกแก้ว กินเสรจกระอักกระอ่วนไปตลอดบ่ายระหว่างที่รอฉายแสง วันนี้ได้ฉายเร็วมานิดนึงเข้าห้องไปตอน 17:40 เย็นกลับถึงบ้าน 18:40 กินข้าวไข่เจียวได้จานนึงแต่พอ 19:30 เริ่มปวดท้อง นั่งหมดแรงบนเก้าอี้ปวดยาวไปจนถึง 23:00 กว่าจะได้นอนเกือบเที่ยงคืน

ส่วนเรื่องแผลในปากตอนนี้ที่คอไม่เจ็บแล้ว แผลที่ลิ้นก็เริ่มดีขึ้น รอยไหม้ที่คอเริ่มแห้งกลับกลายเป็นคันๆแสบๆแทน ก็ทนๆไปเหลือเวลาคันก็ใช้มือลูปเบาๆเอา เหลือฉายแสงอีกแค่ 8 ครั้ง กับคีโมอีกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น 




16 กพ. เมื่อคืนนอนท่าไหนไม่รู้ตื่นมาคอเคล็ดเหมือนตกหมอนต้องบริหารคอแต่เช้า แถมตื่นมาพร้อมกับอาการเจ็บคอหอย (อีกละ) อาการเจ็บในช่องนี่มันจะเป็นๆหายๆ โดยหลักการคือเซลล์จะถูกทำลายไปจากการฉายแสง ตอนไหนที่เซลล์ตายเยอะก็จะเป็นแผลแดง พอผ่านไปสักวันหรือสองวันร่างกายจะสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนอาการก็จะหายเจ็บเป็นแบบนี้วนไปจนกว่าเนื้อมะเร็งบริเวณนั้นจะหมดไป

วันนี้ต้องไปเจอหมอถ้าแก้เรื่องกระเพราะไม่ได้อาทิตย์หน้าน้ำหนักมีลดฮวบแน่นอน วันนี้มีเรื่องที่ต้องเล่าให้หมอฟังดังนี้

  • ลิ้นชาหนา รู้สึกเป็นฝ้าเยอะ ต้องคอยเองผ้าก๊อซขัดถูเนื้อเยื่อออกบ่อยๆ
  • เบื่ออาหารมากๆ ไม่อยากกินอะไรเลย
  • สำลักง่ายขึ้น กลืนยากขึ้น
  • เริ่มปรับเป็นเอนชัวร์วันละ40ช้อน และข้าวสองมื้อเล็กๆ
  • รอยไหม้ที่คอเริ่มลอกและคัน
  • มีอาการปวดท้องเหมือนเป็นโรคกระเพาะ หิวก็ปวด อิ่มก็ปวด

หมอจีน

  • แผลในคอยังคงระดับที่น่าพอใจ
  • อวัยวะภายในยังทำงานมีแรงดี แต่ถ้าปวดท้องกินได้น้อยลงจะเริ่มหมดแรง
  • แผลในกระเพาะให้ลองกินน้ำผึ้งเปล่า1ช้อนโต๊ะกลืนตอนท้องว่างเพื่อช่วยลดกรดและรักษาแผล
  • จะเพิ่มยารักษาแผลในกระเพาะให้
  • ยาช่วยย่อยครั้งที่แล้วไม่มีผลต่อการเพิ่มกรดในกระเพาะหรือปวดท้อง ดังนั้นยาจีนไม่ต้องหยุดกินต่อได้

หมอฉายแสง

  • คอที่เริ่มลอกอย่าเกาเพราะถ้าเป็นแผลจะหายยาก รังสีทำให้เซลล์ทุกอย่างหยุดทำงานและค่อยๆตายไป ดังนั้นจะต้องใช้เวลานานกว่าเซลล์ชุดใหม่จะเกิดขึ้น
  • รังสีแม้ว่าจะหยุดฉายไปแล้ว จะทำงานระดับเซลล์ต่อไปอีกราวๆ 6-8สัปดาห์ดังนั้นให้ดูแลร่างกายต่อไปให้ดีอีกระยะ
  • เหลือฉายแสงอีกนิดเดียว อดทนหน่อยใกล้จบแล้ว

หมอคีโม

  • ที่ปวดท้องเป็นกระเพาะอักเสบ ผลมาจากยาแก้แพ้ที่ฉีดตอนให้คีโม ซึ่งไม่มีตัวเปลี่ยน และไม่ฉีดก็ไม่ได้ การให้ยาซ้ำๆอาจจะทำให้กระเพาะระคายเคืองยาวๆนานและอักเสบได้
  • จะเลื่อนการให้คีโมไปเป็นวันพุธหน้าเพื่อรักษากระเพาะก่อนในระยะ 5วันนี้
  • หมอบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นอาการนี้ รักษามา10ปีแทบไม่เจอ เป็น rare case จริงๆ
  • วันอังคารต้องเจาะเลือดอีกรอบเพื่อดูว่าค่าเลือดยังปกติไหม

ให้คะแนนความปวดท้อง 8/10

17 กพ. วันนี้ไม่ต้องไปฉายแสงเพราะเครื่องฉายเขาหยุดซ่อมบำรุงประจำปี และไม่ต้องไปให้คีโมด้วย ถือเป็นการหยุดพักรักษากระเพาะให้หายไวๆ เพราะออกจากบ้านจะควบคุมอาหารการกินได้ค่อนข้างลำบาก

เช้าเริ่มกลับมากินข้าวต้มถั่วได้แค่มื้อเดียว เจ็บลิ้นอีกแล้ว เที่ยงเลยต้องกลับไปกินเอนชัวร์ต่อแต่รอบนี้เปลี่ยนสูตรเป็นกินสองแก้ว แก้วละ 8ช้อนเพื่อให้ใส่น้ำได้เยอะ เกรงว่าข้นไปจะทำให้ปวดท้อง ก้อไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก จังหวะนี้ต้องเดาและปรับเปลี่ยนไปก่อน แล้วค่อยมาสังเกตว่าหายหรือไม่ เมื่อคืนกินยาโรคกระเพาะชุดใหม่ มียาแก้ปวดมาให้ด้วยทำให้วันนี้ไม่ค่อยปวดมากเท่าเมื่อวาน แต่อาการยังพะอืดพะอมจะอ้วกมันทั้งวัน

ให้คะแนนความปวดท้อง 3/10


18 กพ. กินยาแก้ปวดมาสองวันแล้วอาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เช้ากินโจ้กได้ถ้วยเล็กๆ ถือว่าค่อยๆเริ่มกลับมากินได้ กระเพาะเริ่มทำงานได้ปกติขึ้นไม่มีท้องอืดเท่าไหร่แล้ว เที่ยงก็กินโจ้กที่เหลือจากตอนเช้า ส่วนเย็นกินข้าวต้มไข่เจียวกับผัดผัก วันนี้กินไข่ขาวได้ครบ5ฟองพอดี ปัญหาคือมื้อเย็นจะกินยาจีนไม่ได้มา2-3วันแล้ว เพราะทุกครั้งที่กินข้าวเยนเสร็จจะแน่นท้องกระอักกระอ่วนทุกครั้งไป อาการที่ตามมาคือเริ่มเจ็บคอหอยข้างใน แปลว่ายาจีนนี่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้แบบเห็นผลมากๆ พรุ่งนี้ต้อรีบกลับมากินต่อให้ครบ2มื้อ

ให้คะแนนความปวดท้อง 2/10


19 กพ.วันนี้ไม่ได้กินยาแก้ปวดแล้ว เหลือแค่กินยาลดกรดเท่านั้น เช้ากินข้าวได้ชามใหญ่ ถึงแม้มันจะไม่อร่อยแต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องกระเพาะ ยังพอฝืนกินได้บ้าง ใช้เวลากินไปเกือบ1ชั่วโมง เที่ยงออกจากบ้านไปกินราเมน ทำไปทำมา ในช่วงรักษานี่กินราเมนเป็นมื้อเที่ยงเกือบ50%เลยแหะ 

เย็นกินนมหนึ่งแก้วกับกินข้าวอีกครึ่งจาน ชั่งน้ำหนักตอนสามทุ่มได้ 56.6 ยังไม่ขึ้น ต้องรีบปั้มน้ำหนักให้มากกว่านี้

ให้คะแนนความปวดท้อง 1/10



Monday, February 6, 2023

NPC ตอนที่18 สัปดาห์ที่ห้าของการฉายแสง/คีโมครั้งที่4

 6 กพ. วันนี้เริ่มมีอาการปากอ้าลำบาก ผิวหนังบริเวณรอบคอเริ่มไหม้เป็นสีคล้ำและมีแผลบางจุด ต้องบอกตัวเองว่าอย่าเกาแรง และต้องคอยบริหารปากและคอให้ตรงรอบเวลาอย่างสม่ำเสมอ ปัญหาของวันนี้คือพอไม่สบายท้องมักจะลืมกินน้ำ ทำให้ช่วงเช้าได้น้ำไม่ครบ 1 ลิตร ต้องยกยอดไปรวบกินตอนบ่าย

เช้ากินข้าวต้มธัญพืชได้หมดชามแต่กินไข่ต้มไม่ได้เลยอาการแบบเหม็นอาหาร เที่ยงกินบะหมี่เกี๊ยวที่เคยชอบกัน เอาจริงกินได้แค่ครึ่งเดียว ส่วนเย็นนี่กินไม่ได้เลย อาศัยนม6 ช้อนช่วยบรรเทาไปอีกมื้อ


7 กพ. เรื่องมวนท้องนี่เป็นอะไรที่ทรมานมาก ปากจืดยังพอฝืนกินข้าวได้ แต่ท้องมวนนี้ฝืนไม่ได้ เมื่อวานแทบไม่ได้กินอะไรก็เพราะท้องนี่แหละ แต่อย่างไรก็ตามต้องพยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างต่ำ 2 ลิตรเพื่อรักษาไตเอาไว้

วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ท้องไม่มวนแล้วแต่ความอยากกินยังไม่มา พยายามกินข้าวต้มตอนเช้ากับไข่ให้ได้ตามเป้า ปากเริ่มตึงมากขึ้น เป็นแผลมากขึ้นแล้ว ลิ้นชาไปหมด กินน้ำเริ่มสำลักแต่มักจะเป็นช่วงตื่นตอนที่ไม่ได้ขยับแล้วมันแข็งเกร็งในปาก ชีวิตช่วงนี้ลำบากสุดคือเรื่องกินนี่แหละ ชีวิตติดคอนต้องกินเยอะๆแต่กินมากๆไม่ได้ร่างกายไม่รับเลยไม่รู้ว่าจะกินเยอะหรือกินน้อยดี เที่ยงกินข้าวไข่เจียวนั่งฝืนกินข้าวคำน้ำคำไปจนหมด ปากแห้งกินข้าวสวยกลืนยากต้องใช้น้ำช่วย แต่คอหอยยังไม่เจ็บเท่าไหร่ อาจจะได้อานิสงส์จากยาจีนช่วยผยุงไว้ เย็นแม่บ้านทำมักกะโรนีให้เป็นเส้นต้มกับหมูสับใส่หัวหอมแครอท กินง่ายกว่าข้าวเยอะ

วันนี้ฉายแสงเป็นครั้งที่19แล้ว ครึ่งทางแรกรุ้สึกผ่านไปไวมากแต่ช่วยนี้เวลาหมุนรอบตัวเองช้ามาก กว่าจะผ่านไปแต่ละมื้อแต่ละชั่วโมงระบมท้องไปหมด แผลที่ปากเริ่มมากขึ้นผุพองไปเยอะแล้วต้องระวังเรื่องความสะอาดปากเป็นพิเศษ


8 กพ. วันนี้ไม่มวนท้องแล้ว เริ่มลุกเดินได้บ้าง ตรงตามแพทเทิร์นของรอบคีโม ปากเป็นแผลเยอะกินอะไรก็ลำบาก เวลากลืนเริ่มสำลักโดยเฉพาะน้ำและนม ยาสีฟันที่เคยใช้ตอนนี้ใช้ไม่ได้เลยแสบมากๆ ผิวในปากบางลงเยอะคงต้องไปหายาสีฟันเด็กมาใช้ชั่วคราว คอที่ไหม้เป็นรอยดำ วันนี้ตกสะเก็ดเป็นแผลยิ่งทำให้ดำกว่าเดิมแต่ดีคือไม่แสบแล้ว

เช้ากินข้าวต้มถั่วเหมือนเดิม เป็นอาหารเดียวที่กินแล้วมีรสชาติ แปลกดี กลางวันกินราดหน้าได้หมดชาม เย็นกินต้มมักกะโรนีหมดชามเช่นกัน แต่กินไข่ได้แค่ฟองเดียว วันนี้ได้ฉายแสงตอน 16:40 ไวมากๆ กลับถึงบ้านตอน 18:10 แบบไม่เคยมาก่อน ผ่านไปแล้ว 20 ครั้งพอดี เหลืออีกแค่ 13 ครั้ง





9 กพ. ปากเจ็บเริ่มดีขึ้นคงเพราะทาเสตียรอยด์ไปเมื่อคืน หมอบอกว่าอย่าทาเยอะกลัวจะเป็นเชื้อราที่ปาก กินข้าวเริ่มกินได้เยอะ คงต้องทำน้ำหนักด่วนๆ ในหนึ่งอาทิตย์มีเวลากินแค่ วันพุธ พฤหัส ศุกร์ และเสาร์ครึ่งวัน ที่เหลือจะอ้วกเพราะคีโม  เช้ากินข้าวต้มถั่วเป็นอาหารหลักที่อร่อยเพราะมีรสชาติ เที่ยงกินข้าวหน้าไก่กินด้วยความทรมานอย่างสุดซึ้ง เย็นกินข้าวไข่ข้นกุ้ง ที่เอ่ยมานี่อร่อยแต่หน้าตารสชาติคือไร้รสสนิท

วันนี้มีคิวหาหมอสามท่านรวดเล่าอาการเหมือนกันว่าช่วงนี้มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหาร

  • หลังคีโมวันศุกร์จะกินข้าวได้ปกติ
  • วันเสาร์ยังปกติ ตกเย็นเริ่มกินข้าวไม่ได้
  • วันอาทิตย์จะกินข้าวไม่ได้เหมือนอาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อย
  • วันจันทร์เริ่มดีขึ้นแต่ยังกินข้าวลำบาก
  • วันอังคารดีขึ้นอีกนิด มื้อเย็นเริ่มปกติ
  • วันพุธกินได้ปกติแต่ยังกินได้ไม่เยอะ บ่ายต้องไปตรวจเลือด
  • วันพฤหัสกินข้าวได้กินนมได้ อัดอาหารทำน้ำหนัก
  • วันศุกร์เช้ากินได้ เที่ยงกินได้ ให้คีโมเสร็จเข้า cycle รอบใหม่

หมอจีน

  • ปากมีแผลนิดหน่อยยังไม่น่าเป็นห่วง
  • ค่าเลือดจางลงไปอีกในระดับ HCT 35% แต่ยังไม่ต่ำกว่า 25% น่าจะให้คีโมได้
  • จะเพิ่มยาช่วยระบบย่อยให้
  • อย่าลืมบริหารปากและคอ

หมอฉายแสง

  • แผลในคอกับแผลที่ดีขึ้นแล้วให้หยุดทายาได้
  • รอยไหม้รอบคอ อย่าไปแกะเกา

หมอคีโม

  • ค่าเลือดต่ำกว่าเกณฑ์คนปกติ แต่ปกติของคนให้คีโม พรุ่งนี้ให้ยาได้
  • หมอบอกว่าสำหรับเคสนี้การรักษาจะเป็นการรักษาหลัก ดังนั้นถ้าค่าเลือดแย่จนฉายแสงไม่ไม่ได้ คีโมจะต้องเป็นถอย ดังนั้นค่าเลือดจะใช้ประกอบทั้งสองการรักษาไปพร้อมๆกัน
  • พรุ่งนี้จะเป็นการคีโมครั้งที่4 ในขนาดเท่าเดิมคือ 40mg ต่อ m^2 ทำให้ยาสะสม4ครั้งคือ 160mg
  • แผนการให้ยาคีโมคือ 160-250 mg เป็นช่วงที่งานวิจัยบอกว่าให้ผลตอบสนองดีต่อคนไทยมากที่สุด
  • แปลความจากหมอคือตอนนี้ได้ยาคีโมครบขั้นต่ำไปแล้ว ถ้าได้ครั้งที่5ด้วยขนาดยาเดิมจะถือว่าบรรลุเป้าแรก และถ้าได้ครบ6ครั้งน่าจะไม่ต้องให้ครั้งที่7
  • งานวิจัยบอกว่าผลตอบสนองดีมักจะทำให้หายขาด คือเซลล์มะเร็งถูกแยกและกำจัดออกไปได้หมดทำให้โอกาสแบ่งตัวเพิ่มรอบใหม่ไม่มี หมอบอกว่าถ้าจะกลับเป็นขึ้นใหม่อันนี้แล้วแต่ดวงละ ยังไม่มีหลักฐานบ่งบอกความสัมพันธ์และสาเหตุที่ชัดได้
  • วันนี้น้ำหนัก57.85 กก ผ่านเกณฑ์ ยังไม่โดนใส่สายอาหาร (รอดไป)
  • ถ้ายังกินได้ต่อเนื่องและรักษาน้ำหนักคงที่แบบนี้ได้อีก2 สัปดาห์ คงจะไม่ต้องใส่สายอาหาร
  • ปีที่แล้วทั้งปีมีผู้รอดไม่ต้องใส่สายอาหารทั้งหมด1คน ปีนี้ยังไม่มีผู้รอดไม่ต้องใส่สายอาหาร
  • เรื่องเบื่ออาหาร กินแล้วไม่ย่อย อาจจะมีผลมาจากยาแก้แพ้ที่กินก่อนนอน ให้ทดลองกินเหลือครึ่งเม็ด ช่วงเวลากลางวันอย่านั่งเฉยๆ ให้ไปเดินออกกำลังแม่จะเพลียหรือง่วง เพื่อให้ร่างกานขยับและเพิ่มความอยากอาหาร
  • เมื่อลดยาแก้แพ้แล้วคลื่นไส้อาเจียน ให้ใช้วิธีกินยาลดคลื่นไส้แทน ซึ่งจะมีผลท้องผูก แล้วค่อยไปแก้เรื่องท้องผูกภายหลัง


10 กพ. เช้ามาปากที่เจ็บดีขึ้นเรื่อยๆ เอาจริงๆร่างกายเราซ่อมแซมตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่เทียบกันว่าระหว่างเซลล์ที่ตายไปจากการรักษาจะได้รับการซ่อมแซมทดแทนทันเวลาไหมถ้าไม่ทันแผลก็ไม่หาย จากข้อมูลที่หาไว้เคยกลัวว่าปากเป็นแผลจะเป็นนานตลอดเวลาที่รักษาจะเจ็บเป็นระยะเวลานาน แต่ถ้าเราดูแลร่างกายดีดี กินอาหารให้ครบ กินวิตามินช่วยเสริม ร่างกายที่แข็งแรงเพียงพอ จะช่วยให้ฟื้นฟูได้ไวจริงๆ

อาหารวันนี้ดร่อยสุดในรอบสัปดาห์ แม้จะรสจืดเหมือนเดิมแต่อย่างน้อยยังมีความอยากกินอาหาร อาจเป็นเพราะมื้อเช้ากับเที่ยงมีระยะเวลาห่างจากยาคีโมครั้งที่แล้วมากสุด พอหลังจากให้คีโมวันนี้ความอยากอาหารจะค่อยลดลงจะเบื่ออาหารในวันอังคาร ตื่นมากินนมแก้วนึง เช้ากินข้าวต้มถั่ว เที่ยงกินเส้นหมี่น้ำ เย็นกินบะหมี่ราชวงศ์ แล้วตามด้วยนมอีก1แก้วกินได้ดีทุกมื้อเลย


11 กพ. ฉายแสงครบไปแล้ว 22ครั้ง เหลืออีกแค่ 11ครั้ง วันนี้พัฒนาการของการฟื้นตัวค่อนข้างดี 

  • แผลในคอที่แดงไม่แดงแล้ว อาจมีแผลขาวๆแต่ถ้าไม่แดงมันจะไม่เจ็บ 
  • แผลในจมูกที่เกิดเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ววันนี้หายแล้วไม่มีเลือดออกแม้จะมีแผลใหม่เกิดขึ้นแต่เลือดออกน้อยกว่าพอสมควร
  • รอยไหม้ที่คอเริ่มลอกแปลว่าไม่ไหม้เยอะไปกว่านี้เท่าไหร่แล้ว 
  • ดูเหมือนการเพิ่มไข่แดงอาทิตย์ที่แล้วจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นมานิดนึง



การกินอาหารวันนี้เช้าเที่ยงยังปกติ ต้องไปลุ้นพรุ่งนี้ว่าจะเดี้ยงแค่ไหน


12 กพ. เมื่อคืนหลังจากปรับยาเหลือครึ่งเม็ด ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้เยอะขึ้นพอสมควร ต้องกินยาเม็ดเหลืองเพื่อช่วยลดอาการคลื่นไส้ก่อนนอน ระยะเวลากว่ายาจะออกฤทธิ์คือ 2 ชํ่วโมง ก้อนอนพื้นไปก่อนเผื่อๆไว้ เกิดอาเจียนจะไม่เลอะเตียงนอน

ชีวิตช่วงเช้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการง่วงนอนยังมีอยู่แต่พอไปนอนกลับไม่หลับป๊อกเหมือน3ครั้งที่ผ่านมา ง่วงจริงแต่ไม่หลับทำให้สามารถฝืนลุกไปกิจกรรมอื่นๆได้ พอทำกิจกรรมได้อาการท้องอืดหรือมวนท้องก็น้อยลง เช้ากินข้าวต้มถั่ว เที่ยงกินสุกี้ชาม แล้วไปเดินแม็คโครซื้อของเข้าบ้าน โดยรวมๆชีวิตดีขึ้นเยอะ แต่เย็นอาการมวนท้องหนักๆกลับมาตรงเวลา กินข้าวได้แค่ 2-3 ช้อนซึ่งดีกว่าที่ผ่านมาคือกินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ กินข้าวเสร็จคลื่นไส้เบาๆจึงกินยาเม็ดเหลืองไป 1 เม็ด จบสัปดาห์ไปด้วยดี