Monday, January 16, 2023

NPC ตอนที่15 สัปดาห์ที่สองของการฉายแสง/คีโมครั้งที่1

16 มค. วันนี้ไม่มีนัดกับหมอ มีแค่ฉายแสงตอน18:00 ขับรถออกจากบ้านประมาณ15:00เหมือนเดิมเพื่อหลบรถติด จริงๆพรุ่งนี้จะมีนัดกับหมอคีโม ต้องไปเจาะเลือดล่วงหน้า3ชั่วโมง แต่ไหนๆวันนี้ก็ต้องมาอยู่แล้ว เจาะล่วงหน้าอีก1วันไปเลย ไม่ต้องไปเสียเวลารอผลเลือด

จากนั้นไปรอที่หน้าห้องฉายเวลา 16:00 นั่งรอสักพักได้คิวฉายตอน 17:15 วันนี้เครื่องฉายหมุน 3 รอบเหมือนวันก่อน เสร็จราวๆ 17:40 แต่วันนี้จอดรถอีกตึกทำให้ต้องเดินไปเอารถ กว่าจะได้ออกจาก รพ. ประมาณ 18:00 ถึงบ้านตอน 19:00


17มค. เช้านี้อาการทั่วไปยังปกติดี ไม่มีเจ็บปาก ไม่มีเจ็บคอ แต่น้ำลายเริ่มน้อย ปากเริ่มแห้ง ต้องระวังเรื่องฟันผุให้มากๆ ยังไม่มีอาการขากรรไกรตึง ยังไม่มีอาการคอตึง มีแต่ง่วงทั้งวันเลย

ตอนบ่ายออกจากบ้านเวลา14:30 กะจะให้ถึง รพ. 15:30 จะได้มีที่จอดรถเยอะหน่อย ลงทะเบียนวัดความดันเสร็จ16:00 ไปนั่งรอหมอ กว่าจะได้เข้าห้อง 17:20 ออกมาตอน 17:40 หมอบอกว่า

  • ผลเลือดปกติทั้งหมด สามารถให้คีโมได้
  • หมอตรวจไวรัสตับบีกับตับซีไปด้วย ไม่เป็นทั้งคู่
  • ยาคีโมที่ให้จะมีอาการข้างเคียง จะให้ยาแก้คลื่นไส้ก่อนใส่ยาคีโม
  • จะมียาแก้แพ้แก้คลื่นไส้อีกตัวเม็ดสีเหลืองไว้กินตามอาการ
  • อาการคลื่นไส้จะเป็นหลังให้คีโม1วันและจะกินระยะเวลา2-3วัน
  • ยาคีโมชื่อ IV+Cisplatin
  • ให้ทางสายน้ำเกลือระยะเวลา5ชั่วโมง
  • อาการแพ้ยาใดๆ ถ้าครั้งแรกเกิด จะเกิดซ้ำทุกครั้ง แต่ถ้าอะไรที่ไม่เกิดจะไม่เกิด จะไม่มีอาการสะสม ไม่เหมือนฉายแสงที่จะสะสมขึ้นไปเรื่อยๆ
  • ยาตัวนี้มีผลต่อไตมาก คน10%จะเกิดไตวาย วิธีการป้องกันคือต้องกินน้ำเยอะๆ ให้ได้2.5ลิตรต่อวันทุกวันตลอด ไม่ใช่แค่วันที่ให้คีโม
  • จองห้องให้เคมีบัดบัดที่ชั้น5
  • หมอบอกว่าการให้คีโมใหญ่หลังฉายแสงครบเลิกทำมาหลายปีแล้ว งานวิจัยบอกว่าไม่ได้ช่วยอะไร

อาทิตย์หน้าหมอลาวันอังคาร นัดมาเจอหมอวันพฤหัสแทนแล้วจะให้คีโมวันศุกร์ ตารางใหม่ชนกับหมอฉายแสงพอดีต้องจัดสรรเวลาใหม่ พยาบาลอายุรกรรมบอกว่าให้มาลงทะเบียน วัดความดันให้เรียบร้อยแล้วค่อยไปหาหมอฉายแสง จากนั้นค่อยกลับมาทางอายุรกรรม คลินิกปิดประมาณ 18:30

จากนั้นรีบเดินไปห้องฉายแสงยื่นบัตรตอน18:00คิดว่าทันเวลา แต่นักรังสีบอกว่าควรมายื่นบัตรอย่างน้อย17:30 เพื่อให้ได้คิวภายในรอบ18:00 สำหรับวันนี้ตกรอบแล้วต้องไปรอคิว19:00 ถ้ามีตรวจแผนกอื่นก่อนมาฉายแสงให้แจ้งล่วงหน้าเพื่อจัดคิวรอ นั่งรอกว่าจะได้เข้าคือทุ่มกว่า วันนี้เครื่องฉายหมุนสามรอบ ออกจากห้องฉาย 19:30 หิวมากรีบไปหาข้าวกินตอน 19:45 ศูนย์อาหารปิด 20:00 เหลือแค่ข้าวมันไก่ร้านเดียว กินเสร็จจาก รพ 20:00 แต่ข้อดีคือรถไม่ติดเลยถึงบ้านตอน 20:30

แนวทางการรักษาโรคมะเร็งโพรงหลังจมูก

https://www.chulacancer.net/patient-knowledge-inner.php?id=622

ยา Cisplatin

ยาเคมีบำบัดสูตร Cisplatin/Gemcitabine

ผลข้างเคียงทั่วไปและการดูแลตนเองเบื้องต้นจากยาเคมีบำบัด

ซิสพลาติน


18มค. มีนัดให้คีโมตอน 12:00 ต้องมาก่อน 1 ชั่วโมงคือ 11:00 วันนี้ไม่เอารถไปเพราะหมอบอกว่าให้ยาวันแรกยังไม่รู้ว่าอาการจะเป็นอย่างไร กลัวว่าจะขับรถกลับไม่ไหวเลยตัดสินใจนั่ง BTS ไปแล้วนั่งแท็กซี่กลับสำหรับวันแรก ครั้งต่อไปถ้ารู้อาการแล้วค่อยวางแผนเอารถมาอีกที

 ออกจากบ้าน 09:30 มาถึง รพ. 10:30 จัดแจงลงทะเบียนเนื่องจากการให้ยาวันนี้มีระะเวลานาน 6ชั่วโมง สามารถเลือกได้ว่าจะลงทะเบียนเป็นคนไข้ใน Day Case ได้ ลงทะเบียนแล้วไปจ่ายเงินที่การเงินชั้น6 ค่ายารวมค่าเตียง 3พันกว่าบาท จากนั้นมายื่นคิวเตียงตอน 10:45 จากนั้นไปกินข้าว แปรงฟันให้เรียบร้อย เที่ยงมานั่งรอเรียกชื่อ ได้เข้าห้องตอน 12:30 พยาบาล มาเปิดเส้นเลือดเพื่อรอยา สูตรการให้ยาวันนี้ จะเป็น

  • ให้น้ำเกลือเพื่อเตรียมไต2ชม. 500cc เริ่มตอน 12:45
  • จากนั้นฉีดยาลดการคลื่นไส้ 50cc
  • ฉีดยาแก้แพ้ 1เข็มเข้าทางเส้น
  • ให้ยาชื่อ IV+Cisplatin 65mg เริ่มตอนเวลา 14:50 (Kemoplat) อัตรา 210ml/hr
  • สิ้นสุดการให้ยาตอนเวลา 16:50

นั่งให้น้ำเกลือไปสักพักมีพยาบาลมาแจกคู่มือการดูแลตัวเอง1เล่ม แนบนามบัตรพร้อมเบอร์ติดต่อและแบบประเมินอาการ 1แผ่นสำหรับแจ้งอาการฉุกเฉินเมื่ออยู่บ้านตามรูป


คุณพยาบาลสรุปขั้นตอนการดูแลตัวเองให้ฟังดังนี้
  • ยาCisplatin มีผลต่อไตสูง เน้นเรื่องการดื่มน้ำเยอะๆ มากกว่า 2.5ลิตรต่อวัน ดื่มทุกวัน
  • ยาCisplatin ที่ให้จะมีผลข้างเคียงคือคลื่นไส้อาเจียน ดังนั้นจะมียาเม็ดสีเหลืองให้ไปด้วย ถ้ามีอาการที่บ้านให้กินได้ แต่ยาเม็ดจะทำให้ท้องผูก
  • นอกจากคลื่นไส้อาจจะมีอาการอื่นเช่น เบื่ออาหาร เจ็บในปาก เจ็บในลำคอ หากมีอาการมากให้กลั้วคอด้วยน้ำสุกผสมเกลือ
  • ยาสีฟันแบบไม่แสบปากจะช่วยให้ปากไม่เจ็บ งดใช้น้ำยาบ้วนปาก งดอาหารรสจัด ที่จะทำให้ปากเป็นแผล
  • ผลข้างเคียงจะมีประมาณ 2-3วัน แล้วจะค่อยๆดีขึ้น
  • แผลในร่างกาย ถ้าเป็นแผลปิดแล้วไม่มีผล ยกเว้นแผลสด แผลไม่ปิด อาจจะมีการติดเชื้อได้
  • หากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ให้รีบมาแผนกฉุกเฉิน หรือ รพ ใกล้บ้าน (ดูตามคู่มือประเมินตนเอง)
    • มีไข้มากกว่า38
    • ท้องเสียหนัก
    • ทานข้าวไม่ได้
    • อาเจียนหนัก
  • เมื่อยาCisplatin ทำงานจะมีผลให้ภูมิตก ดังนั้นหลีกเลี่ยงการอกนอกบ้านไปยังที่คนเยอะๆ หลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
  • อาหารการกินสามารถกินได้ทุกอย่างที่ปรุงสุก100%
  • งดกินผักสลัด ผักดิบ งดต้นหอม ผักชี
  • ผลไม้พวกที่มีเปลือกกินได้โดยการปอกเปลือกก่อนกินเช่นแอปเปิล ส้ม สาลี่ กล้วย
  • ผลไม้ที่กินทั้งเปลือกให้งด ไม่ควรกินเช่นองุ่น สตอเบอรี่
  • เน้นอาหารที่โปรตีนสูงๆ เช่นไข่ขาว4-5ฟองต่อวันและพักผ่อนเยอะ เพื่อให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดทดแทน
  • งดอาหารหมัก อาหารดอง หรืออาหารที่มีจุลินทรีย์
  • นมให้เน้นเป็นนมUHTเพราะปลอดเชื้อ ไม่กินนมถั่วเหลืองข้างทาง
  • อาหารตามร้านให้ดูความสะอาดเป็นหลัก

หลังจากให้คีโมเสร็จ พยาบาลให้สังเกตอาการ ไม่มีคลื่นไส้ ไม่เวียนหัว ไม่เพลีย ให้กลับบ้านได้ เวลา 17:00 ทำกิจกรรมได้ปกติ ให้ระวังเรื่องที่ชุมชนและการติดเชื้อ ไปรับยาเม็ดกลับบ้าน ได้ยามาสองตัวคือ olanzapine 5mg ตัวนี้ป้องกันการคลื่นไส้ให้กินจนหมดจะมีอาการง่วงนอน อีกตัวคือ ondansetron 8mg ตัวนี้กินเมื่อมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตัวนี้กินแล้วท้องผูก 

จากนั้นรีบไปห้องฉายแสงอีกตึกเพื่อให้ทันรอบ 18:00 ที่นัดไว้ ได้เข้าห้องฉายเวลา 18:02พอดี วันนี้มีอาการแพนิคเครื่องฉาย คือตอนที่โดนหน้ากากกดยึดหน้าไว้จะเริ่มรู้สึกอึดอัด แต่ยังพอทนได้ คราวนี้เวลาเครื่องฉายทำงานหมุนรอบมีเสียงดัง เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว คุมร่างกายไม่ได้ หายใจไม่ออก พยายามดึงสติกลับมา แต่ทำได้แค่รอบสอง พอรอบสามต้องกลั้นหายใจเอาทนจนสุดเกือบทนไม่ได้ เสียงหัวใจเต้นดังมาก น้ำตาไหล หายใจหอบแฮกๆ ต้องลองไปหาว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่

ขากลับตัดสินใจจะนั่งแท็กซี่เพื่อหลีกเลี่ยงรถไฟฟ้าเป็นการป้องกันการติดเชื้อจากคนหมู่มากในรถไฟฟ้า แต่หารถไม่ได้เลย สุดท้ายกลับรถไฟฟ้า มีอาการเมารถไฟฟ้าครั้งแรกในชีวิต ยืนเฉยๆ มองไกลสักพักหาย อาทิตย์หน้าคงต้องเอารถมาเอง กลับแบบวันนี้ไม่สะดวกหลายอย่าง


19มค. เช้านี้ตื่นมีอาการพะอืดพะอม กินข้าวได้ลำบาก แต่ไม่คลื่นไส้ ไม่อาเจียน กินโจ๊กไข่ได้แต่กินหมูไม่หมอมันแหยะๆ เลี่ยนๆ เที่ยงกินข้าวผัดได้หมดจานแต่ก้อยังพะอืดพะอมอยุ่ มีนัดกับหมอฟันเพื่อทดสอบฟันยางสำหรับใส่ฟลูออไรต์ตอน 14:00 ต้องออกจากบ้านเวลา 12:30 ถึงลานจอดรถนางเลิ้ง 13:17 รอรถรับส่งของ รพ มาถึงอาคาร3 ตอน13:35 ทันเวลาพอดี

สรุปข้อความของหมอฟัน

  • ยังแปรงฟันล่างหน้าไม่ดีพอ มีคราบอาหารติด ต้องหัดแปรงตามซี่ฟันและโค้งฟัน หากมีหินปูนเกาะจะเร่งให้เกิดเหงือกอักเสบจากฉายแสง
  • จะมีฟลูออไรต์ให้ไปเคลือบก่อนนอน ใช้ช้อนตักปาดใส่ยางฟัน เกลี่ยให้เท่าๆกัน ปริมาณให้ทดลองกะเอาอย่าให้ล้น กดถาดยางใส่ฟันอันใหญ่ด้าน อันเล็กด้านล่าง ใส่แล้วอมห่อๆไว้ 5นาที อย่ากัดมันจะแตก อมแล้วอย่ากินน้ำอีก ถ้าฟลูออไรต์เยอะไปให้บ้วนออกได้ แนะนำให้ทำก่อนนอน ทำเสร็จแล้วไปนอนจะได้ระยะเวลาเคลือบนานที่สุด สารเคลือบจะต้านกรดจากแบคทีเรียช่วยให้ฟันผุช้าลง ให้จดบันทึกจำนวนวันที่ใช้ด้วย คราวหน้าจะได้สั่งปริมาณถูก
  • ต้องใช้ไหมขัดฟันให้ถูกวิธีด้วย คือต้องโอบฟันพอดี และตอนกดไหมอย่าให้โดนยอดเหงือกสามเหลี่ยม แต่ให้ค่อยๆไถจนลงร่องเหงือก มิฉะนั้นเหงือกอาจร่นได้
  • ใช้ผ้าก้อซชุดน้ำเกลือพันนิ้ว
  • แปรงลิ้นจนขาวหรือชมพู อย่าให้มีคราบสีเหลืองหรือสีน้ำตาล
  • แปรงฟันแปรงได้บ่อย อย่าใช้แรงเยอะเน้นการปัดฟันให้เหมือนปัดฝุ่น อย่าให้เหมือนการขัดพื้น
  • ต้องเริ่มบริหารการอ้าปาก โดนการอ้าปากให้สุดและใช้นิ้วช่วยง้างปากเหมือนฉีกทุเรียนค้างไว้นับ1-20 ถือว่าเป็น1เซท ทำเช้า10เซท เย็น10เซท


สรุปข้อความของหมอฉายแสง

  • โดยรวมๆยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แผนยังเหมือนเดิม น้ำหนักขึ้นเป็น 59 กิโล หมอให้ระวังจะสวมหน้ากากไม่ได้
  • อาทิตย์หน้าจะเริ่มเจ็บคอ เจ็บปาก หมอเลยให้ยาไอโอดีนมากลั้วคอ เป็นยาแบบเข้มข้น ใช้ 1cc ผสมน้ำ 30cc กลั้วคอ เช้ากลางวันเย็น
  • ลิ้นจะเริ่มเพี้ยนอาทิตย์หน้าเช่นกัน คาดว่าจะกินได้น้อยลง

จากนั้นไปรอฉายแสงตอน 16:00 กว่าๆ ได้เข้าห้องฉายราวๆ 17:40 เวลาเดิม วันนี้ใช้วิธีหลับตาเอาลด แพนิคเครื่องฉาย ได้ผลนิดหน่อย แต่ยังมีอาการหัวใจเต้นเร็วอยู่บ้าง แต่ก็พอควบคุมได้


20มค. เดิมทีมีนัดกับหมอจีนวันเสาร์21 แต่ตรงกับวันตรุษจีนจึงขอเลื่อนมาเป็นวันนี้แทน ออกจากบ้าน12:30 นัดหมอจีนไว้ 14:00 หมอสักถามอาการทั่วไป

  • เน้นเรื่องการบริหารคอมากๆ
  • เน้นเรื่องกินอาหารเยอะๆ
  • ให้กินไข่ขาว5ฟองต่อวัน ต้องการอบูมิน เพื่อเอาไปสร้างเม็ดเลือด อยากให้กินไข่ขาวสดมากกว่าไข่ขาวเม็ด ส่วนไข่แดงกินแค่1ฟองพอ
  • กินสาลี่จะช่วยกระตุ้นต่อมน้ำลายได้ไม่ให้ฟ่อ
  • กินบ้วยเค็มก้อกระตุ้นต่อมน้ำลายได้เช่นกัน
  • อย่ากินผักสดเพราะกลัวติดเชื้อ

แนวทางการดูแลตัวเองของหมอจีนเป็นไปในทิศทางเดียวกับหมอคีโม เพียงแต่หมอจีนมีรายละเอียดเยอะกว่า เสร็จจากหัวเฉียวรีบไปรามา ไปถึง16:15 ได้ที่จอดรถตึกมูลนิธิตามแผน นั่งรอฉายแสงได้ทำตอน 17:13 ออกจากห้องฉาย 17:22 ดีใจว่าจะได้กลับบ้านเร็วที่ไหนได้รถติดบนทางด่วนมาก ถึงบ้าน19:30ใช้เวลาไป 2ชั่วโมง กลับมากินข้าวได้หน่อยนึง มีอาการปวดกระเพาะและมวนท้องตลอด พอตอน21:00กินยาจีนเพิ่มเข้าไป แพรบเดียวอาเจียนออกมาหมด แต่ก็ดีอาการไม่สบายท้องหายหมด เสร็จแล้วไปอาบน้ำนอน รวมๆแล้วดื่มน้ได้แค่ 2.0 ลิตร ไม่ถึง 2.5 เท่าที่หมอสั่งไว้


21 มค. เช้ามายังมีอาการมวนท้องอยู่ จึงกินยา ondansetron 8mg เข้าไปเม็ดนึง แล้วไปนอนสักพัก ตื่นมากินโจ๊กไปแต่อาการมวนท้องยังมีอยู่ จึงไปนอนต่อกว่าจะรู้สึกดีเกือบเที่ยง เที่ยงแม่ทำบะหมี่หมูอบมาให้กิน อาการเริ่มท้องเริ่มก็เริ่มหิวกินได้หมดชาม เย็นนี้ต้องไปกินงานรวมญาติตรุษจีนอีก พร้อมกินไหมเนี่ย!! สรุปวันโดยรวมๆแล้ววันนี้ดื่มน้ำไป 2.4 ลิตร ยังไม่ครบ 2.5 ลิตรเลย


22 มค. เช้านี้ปากเริ่มไม่รับรู้รสชาติแล้ว กินก๋วยเตี๋ยวเหมือนซดน้ำเปล่ากร่อยๆ กินหมูเหมือนเคี้ยวกระดาษ กินทอดมันเหมือนเคี้ยวหมากฝรั่ง แต่ยังดีที่จมูกยังได้กลิ่น ใช้จินตนาการเวลากินไปก่อนละกัน ที่ยังพอโอเคคือเริ่มกินได้ มีความรู้สึกอยากกินบ้าง อยากกินขนมปังเผือก อยากกินมันฝรั่งเลย์ แต่ปากแห้งกินไม่ได้ คอด้านในเริ่มรู้สึกว่าเวลากลืนเหมือนมีก้อนอะไรค้างที่หลังลิ้นไก่ แต่ยังไม่เจ็บ หมอบอกว่าจะเริ่มเจ็บอาทิตย์นี้แหละ ระหว่างวันก็บริหารปากและคอไป หมอจีนบอกว่าจะช่วยกระตุ้นไม่ให้ต่อมน้ำลายแห้ง โดยรวมๆยังกินได้ถ้าไม่มวนท้อง แต่เรื่องท้องผูกนี่รุนแรงจริงๆ วันนี้ดื่มน้ำได้ครบ 2.5 ลิตรเป็นวันแรก


No comments:

Post a Comment