เมื่อวานออกจากบ้านไป รพ. แต่เช้า ก่อนออกจากบ้าน กินเอนชัวร์ 4 ช้อน + เวย์โปรตีน 3 ช้อน ชั่งน้ำหนักก่อนไปได้ 55.0 ไปถึง รพ. ชั่งได้ 56.0 รวมชุดแล้ว คุณพยาบาลทักว่า น้ำหนักลดลงเร็วไปนะ อาทิตย์ก่อนยังวัดได้ 57.5 รวมชุด แปลว่าหายไป 1.5 กิโล ใน 1อาทิตย์ จริงๆ ก้อคาดหวังว่าน่าจะลดเพราะทดลองกินแต่อาหารเหลว แต่ไม่นึกว่าจะลดเร็วเกินไปขนาดนี้ ไม่ได้การละ กลับบ้านต้องเริ่มคิดแผนการกินอาหารใหม่
กลับถึงบ้านเที่ยง นาฬิการบอกว่าเดินไป 8000 สเดป หิวโครก รีบจัดการกินเอนชัวร์ไป 8 ช้อน บ่ายสามเริ่มหิวอีกแล้ว กินเพิ่มไปอีก 8 ช้อน ตอนหกโมงเย็น กินเพิ่มไปอีก 8 ช้อน ดูจากตารางการกินแล้ว กินได้วันละ 28 ช้อน + เวย์โปรตีน 3 ช้อนต่อวัน
เช้าวันนี้ชั่งน้ำหนัก ได้ 54.5 กิโล น้ำหนักยังคงลงต่อเนื่อง วันนี้คงต้องเริ่มกินอาหารบ้างแล้ว น้ำหนักลดลงมากไปแล้ว แม้ยังเจ็บเหงือกแต่คงต้องค่อยๆเคี้ยว แพลนวันนี้คือกินอาหารปกติให้ได้ 3 มื้อ พร้อมกินเอนชัวร์อีก 28ช้อน+เวย์อีก 3ช้อน ทดลองกินสัก 3 วัน แล้วจะลองมาชั่งน้ำหนักใหม่ว่าจะเอาขึ้นทันก่อนวันทำหน้ากากไหม
มื้อเช้ากินต้มเลือดหมูกับข้าวกล้อง เนื่องจากฟันที่ถอนคือ 4 มุมปาก ทำให้เลือกแก้มข้างที่จะเคี้ยวฟันได้ลำบาก สรุปว่าเลือกเอาข้างที่เพดานไม่รั่วคือข้างซ้ายละกัน กินครั้งแรกยังไม่ชิน ทำให้ฟันชนกันดังกึกๆ ต้องหัดเคี้ยวใหม่ เคี้ยวให้ช้าลง เคี้ยวเอียงทางด้านหน้า ถ้าเผลอตักคำใหญ่เป็นก้อนกลมๆ อาหารที่เข้าปากจะไปดันกับไหมเย็บแล้วขูด ทำให้เจ็บเหงือก แต่ที่แน่ๆ ข้อผักบุ้ง เคี้ยวไม่ได้แหะ
มื้อเที่ยงกินข้าวไข่เจียวกับต้มจืด เริ่มรู้ทางแล้วว่าต้องเคี้ยวอย่างไรเริ่มกินได้เร็วขึ้น รอบนี้ใช้เวลาไป 25นาที ถ้ายังเผลอเรื่องตักคำใหญ่ สงสัยรอบหน้าต้องกินด้วยช้อนชา แทนช้อนข้าว เวลาเคี้ยว ช้าๆ ทำให้รับรู้ว่าน้ำลายคนเรานี้ออกมาเยอะมากตอนเคี้ยวข้าว มันทำให้ข้าวนุ่มเร็ว เคี้ยวง่าย แบบนี้วันที่น้ำลายแห้งคงต้องมาหัดเคี้ยว หัดกินใหม่อีกรอบ ไม่เป็นไรเราเรียนรู้ใหม่ได้เสมอ
วันนี้เพดานที่รั่วเริ่มไม่รั่วแล้ว สังเกตุได้เวลาอมน้ำ น้ำจะไม่พุ่งออกจมูก แต่จะมีอาการเสียวที่รูเหงือกแทน เหมือนว่ารูเริ่มมีเนื้อเยื่อใหม่ๆงอกขึ้น เอาว่าตอนอมน้ำต้องระวังไม่ให้เนื้อเยื่อฉีกขาด ไม่งั้นเรื่องยาว
ข้อมูลเพิ่มเติม
นอกจากอาหารเหลวแล้วยังมีอาหารเยลลี่อีกด้วย เอาไว้เป็นทางเลือกสำหรับเดือนหน้า
http://www.dent-in-found.org/newdesign/research/detail?p=7


No comments:
Post a Comment