Thursday, December 14, 2023

NPC ตอนที่33 อาการปวดหลังมาจากไหน

 14 ธันวา

มีอาการปวดหลัง ปวดกระดูกลางหลัง นอนปวด นั่งปวด ไปหาหมอที่รามา พาราไดส์

หมอกดกระดูกให้ สรุปคร่าวๆว่าเป็นที่กล้ามเนื้อ ได้ยาคลาดกล้ามเนื้อมากิน


จากน้นไปฝั่งเข็มที่หัวเฉียว สามครั้ง ต้องรีบรักษาเพราะสิ้นเดือนต้องเดินทาง 

ต้องเอาให้ดีขึ้นพอจะไปอินเดียได้  อาการทรงๆแต่ยังยืนนานๆไม่ค่อยไหว


Tuesday, October 24, 2023

NPC ตอนที่32 ติดตามผลการรักษาครั้งที่เก้า ผล MRI 1 ปี

 19 ตุลา มีนัดกับหมอฟัน

คุณหมอตรวจฟันทั่วไป ไม่มีฟันผุ แจ้งว่ามีหินปูนเกาะจะทำการขัดหินปูนให้ เอาจริงๆครั้งนี้ห่างจากขัดหินปูนครั้งที่แล้วคือสี่เดือนเอง คุณหมอคงไม่อยากให้มีหินปูนเกาะเยอะ แต่ตอนทำจริงๆ ใช้เวลาเร็วมากๆ น่าจะมีไม่เยอะ ไม่เหมือนรอบก่อนๆ ที่ขัดปีละครั้งจะเจ็บและเสียวรากฟันมาก เพราะทำนาน ส่วนเรื่องการเคลือบฟลูโอไรด์ คุณหมอบอกว่าผนังฟันโดนรังสีทำให้มีความแข็งแรงลดลง ต้องเคลือบฟันตลอดไป รอบนี้อธิบายว่าให้เคลือบ 10 นาทีบางๆ ไม่ต้องเยอะมาก


24 ตุลา มีนัดกับหมอโสตศอนาสิก

วันนี้มาตรวจกับหมอตามนัด คุณหมอได้ส่องกล้องเช็คสภาพ โพรงจมูกภายในให้ บอกว่ารอยแผลดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่แดงกล่ำ ตอนนี้เหลือแดงๆไม่มากเป็นเส้นๆ ที่เหลือเป็นสีชมพู ตรงรอยแผล มีสะเก็ดแผลเหลือเป็นก้อนสีดำเล็กๆสองก้อน ติดอยู่ที่ผนัง หมอใช้ตัวดูดเอาออกเพื่อดูผิวเซลล์ ภาพบอกว่าไม่มีรอยเนื้องอกกลับมาใหม่ กำชับให้ล้างจมูกเรื่อยๆไปตลอด เพราะผนังภายในยังไม่สะอาดดี นัดใหม่อีกสามเดือน


18 พฤศจิ มีนัดทำ MRI รอบสอง

ผลออกมาคือปกติ ต่อมน้ำเหลืองไม่โตขึ้น แต่ก้อไม่เล็กลง จากครั้งที่แล้ว มีขนาดคงที่ ที่0.3mm จากที่เจอครั้งแรก 0.6mm



30 พฤศจิ มีนัดกับหมอฉายแสงกับหมอ onco

หมอฉายแสงคลำต่อมน้ำเหลืองแล้วบอกปกติ ให้นัดติดตามอาการเป็น6เดือน

หมอ onco บอกว่ากล้ามเนื้อคอนิ่มดีให้นวดอย่าหยุด เพราะถ้าพังผืดจับตัวแล้วจะแก้ไขยากมาก



Sunday, September 17, 2023

NPC ตอนที่31 อาการใหม่


 ในแต่วันวันที่ผ่านไป อาการต่างๆก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ประมาณว่าร่างกายมีกาย recover บางวันดีขึ้นบางวันแย่ลง อย่างที่เอารูปมาลงจะเป็นวันที่แย่ๆ มีเลือดออกบางวัน มีแผลขึ้นบางวัน จากที่หมออธิบายคือเซลล์ที่โดนรังสีมากๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถแบ่งตัวได้ด้วยความเร็วเท่าเดิม ทำให้ตอนที่ผลัดเซลล์ไปแล้วไม่มีเซลล์ใหม่มาทดแทน

หลังจากวันที่ 1 กันยามา อาการต่างๆเริ่มดีขึ้น ไม่มีเลือดออกแล้วแต่น้ำลายยังเหนียวอยู่
หลังจากวันที่ 1 ตุลามา น้ำลายเหนียวไม่เป็นสีเหลืองแล้ว ตอนนี้จะเป็นสีขาวๆ ข้นๆ แต่สามารถขากออกได้ง่ายขึ้น ยังมีอาการนอนสำลักน้ำลายบ้างในบางวัน

ผลกระทบข้างเคียงที่่เจอคือแปรงฟันบ่อยๆ ทำให้เหงือกร่น แดง เจ็บ ต้องหาวิธีแปรงฟันใหม่ที่ป้องกันเหงือกร่นให้ได้ดีกว่านี้





18 สิงหา


17 กันยา

Tuesday, July 25, 2023

NPC ตอนที่30 ติดตามผลการรักษาครั้งที่แปด

 25 กค

มีนัดกับหมอรามารอบ3เดือน เล่าให้หมอฟังอาการที่ผ่านมา

  • อาการกรามติดเริ่มดีขึ้นแล้ว
  • อาการกลืนลำบากเริ่มดีขึ้นแล้ว
  • อาการบ่าติดเริ่มดีขึ้นแล้ว
  • อาการคันยังมากกินยาไม่ค่อยหายคัน
  • เริ่มมีน้ำลายแต่เป็นแบบเหนียวๆ
  • ช่วงสองอาทิตย์นี้น้ำมูกเยอะ อากาศเปลี่ยน ฝนตกชื้น
  • กรนเสียงเบาลงแล้ว ค่อนข้างสัมพันธ์กับเรื่องบวมน้ำเหลือง
  • คื่นเช้ายังมีคอแห้งคอติด ใช้ล้างน้ำเกลือช่วยเอา
  • เสียงแหบยังไม่หาย แต่พูดคล่องขึ้น
  • หมอบอกว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เลือด แต่จะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต
27 กค
เข้านี้จามแพ้อากาศติดกันหลายครั้ง สั่งน้ำมูกมีเลือดปน น่าจะมาจากแผล NPC ปริแตก


















7 กค 
เริ่มจับอาการได้ว่าเวลาไอหรือจามแรงเกินไปมักจะมีเลือดออก คงมาจากแผลปริแตกจากแรงความดัน หมอบอกว่าให้ระวังเรื่องการติดเชื้อตอนที่แผลปริ




















9 กค
อาการภูมิแพ้กลับมาอย่างแน่นอนแล้ว ตอนนี้ใช้วิธีกินยาบรรเทาอาการเป็นวันๆไป เริ่มทดลองกินโพรไบโอติด ว่าจะช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้ไหม





Friday, June 2, 2023

NPC ตอนที่29 ติดตามผลการรักษาครั้งที่เจ็ด ผล MRI 6 เดือน

 1 มิย

วันนี้มีกิจกรรมที่ต้องทำเยอะ ทั้งตรวจเลือด ทั้งX-rayปอด และหาหมออีกสองท่าน พร้อมทั้งตั้งใจบริจาคให้กองทุนมะเร็งด้วย


หมอคีโม

  • หมอแจ้งว่าก้อนเนื้อยุบลงแล้วมองไม่เห็น ถือว่าหายแล้ว
  • ให้ออกไปใช้ชีวิตปกติได้ กินอาหารได้ปกติ
  • อาการจากมะเร็งถือว่าหายแล้ว แต่จะมีอาการจากการรักษาจากนี้ไปอีก1ปี
  • เน้นย้ำเรื่องคอให้นวดบ่อยๆ
  • ผล X-ray ปอดปกติ
  • ค่าไตพุ่งขึ้นจาก 0.68 เป็น 1.13 หมอกังวลว่าอาจจะมีอาการไตเสื่อม ให้ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วนัดใหม่อีกที่3เดือนมาติดตามค่าไต
  • หมออธิบายว่าการติดตามรักษาจะแบ่งเป็นส่วนๆ หมอคีโมจะติดตามค่าเลือด หมอรังสีจะติดตามผลmriและหมอจมูกจะติดตามการส่องกล้อง
  • ถ้าผลเลือดปกติ หมอคีโมจะนัดติดตามแค่ปีละครั้ง
  • หมอให้ชื่อกองทุนบริจาคมาคือ art for cancer สำหรับผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ที่ต้องการความช่วยเหลือ


หมอฉายแสง

  • หมอบอกว่าในทางเทคนิคถือว่าหายแล้วแต่ภาพmriแรกหลังฉายแสงจะดูยากหน่อย รอดูอีกที6เดือนละกัน
  • อาการจากมะเร็งถือว่าหายแล้ว อาการที่เหลือมาจากผลจากการรักษา เช่นน้ำลายแห้ง
  • อาการส่วนมากเกิดจากร่างกายสร้างพังผืดออกหลังโดนรังสี เปรียบเสมือนแผลเป็นหลังโดนมีดบาด โดยปกติจะเกิดประมาณ3เดือนหลังจบการฉายแสง
  • เมือ่ร่างกายสร้างพังผืดจนสุดแล้ว ร่างกายจะย่อยสร้างพังผืดส่วนเกินออกไปเอง คล้ายๆกันแผลเป็นที่มักจะยุบและนิ่มลงเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ
  • น้ำลายจะดีขึ้นแต่อาจจะช้าต้องค่อยๆรอ
  • อย่าลืมนวดคอให้น้ำเหลืองไหลลง อย่ารอจนเป็นก้อนแข็ง ทำบ่อยๆ ทำทุกวัน
  • ให้กินอาหารปกติได้เพื่อฝึกลำคอและผนังคอ ไม่ให้ติด กินอาหารเหลวหรืออาหารอ่อนจะฝึกได้น้อย // คงจะเหมือนตอนเช้าตื่นมาจะดื่มน้ำแล้วกลืนไม่ได้เหมือนคอมันติดไม่ทำงาน ต้องบ้วนปากล้างจมูกไปสักพัก แล้วค่อยกลืนพอกลืนได้ก็จะปกติไปทั้งวันแล้วไปเริ่มใหม่ตอนตื่นนอนอีกวัน
  • อย่าเพิ่งกินเผ็ดเพราะเนื้อเยื่อยังอ่อนอยู่
อาการทั่วไป
  • น้ำลายยังแห้งอยู่ ถ้ามีน้ำลายมาจะเป็นแบบเหนียวๆ ข้นๆ
  • คอแห้ง กลืนติด ส่วนมาเป็นผลจาน้ำลายแห้ง โดยเฉพาะตอนเช้าๆจะกลืนลำบากมาก บางครั้งสำลักน้ำตอนกลืน
  • คางมีอาการบวมน้ำเหลืองในตอนเช้า พอสายๆได้นวดบ้างจะค่อยๆยุบไป อาการกลืนติดเหมือนจะสัมพันธ์กับอาการบวมใต้คาง
  • เสียบแหบเสียงเปลี่ยน บางเวลาดี บางเวลาแย่ สลับกันไป แต่รวมๆยังเป็นเสียแหบส่วนใหญ่ ตอนเช้าโดนมากจะพูดไม่มีเสียงเลย
  • เวลาพูดนานๆ จะเจ็บกล่องเสียง เหมือนคนตะโกนตลอดเวลาตั้งวัน
10 มิ.ย.
วันนี้ไปหาหมอ ENT ที่รพ.ไทยนครินทร์ เล่าอัพเดทอาการให้คุณหมอฟัง
  • อาการเจ็บชาปลายลิ้นหายไปแล้ว ความจริงยังมีเหลือนิดหน่อยแต่น้อยจนไม่รบกวนการกินข้าวแล้ว ช่วงนี้กินข้าวได้ปกติ แค่งดกินเผ็ดตามที่หมอฉายแสงบอกไว้
  • คุณหมอลดยาไลลิก้าจาก 75เหลือ 25 บอกว่าจากประสบการณ์หยุดยาเลยไม่ค่อยดีต้องค่อยๆลด แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ดียังไง อาจจะเหมือนร่างกายเคยชินกับยาตัวนั้นมั้ง
  • คุณหมอส่องคอ แล้วดูกระพุ้งแก้ม และส่องรูจมูก ทำท่าตกใจบอกว่าวันนี้ทำไมดูดีขึ้นเยอะ เลยถามไปว่าดียังไง คุณหมอบอกว่าลักษณะผิวเนื้อเยื่อดีกว่าส่องครั้งที่แล้ว 
  • ส่วนเรื่องกล่องเสียง บอกคุณหมอไปว่าทางรามาไม่รักษาตัวนี้ บอกว่าไม่เคยเจออาการแบบนี้ เลยขอคุณหมอว่าจะมารักษาต่อที่นี่นะ
  • เรื่องบวมน้ำเหลือง เล่าให้คุณหมอฟังว่ายังบวมอยู่ คงต้องนวดไปอีกสักระยะ
  • คุณหมดนัด 1 เดือน มีอาการอะไรค่อยมาอัพเดทกันในรอบหน้า
22 มิย
ไปหาหมอฟัน ฟันปกติดีไม่มีผุ หมอขัดหินปูนให้ นัดอีกที 4เดือน เอาฟลูออไรด์มา 6ขวด

24 มิย
วันนี้เป็นแรกที่รู้สึกน้ำลายมา ที่จริงเริ่มรู้สึกมาหลายวันแล้ว แต่มันยังมาแบบกะปริบกะปรอย แห้งแสบคอเป็นระยะ แต่วันนี้ไม่แห้งจนลืมจิบน้ำไปเลย เพียงแต่ยังมีความเหนียวข้นมาก ยังไม่ใส แต่เท่าน้ก้อเพียงพอที่จะทำให้ขากเสมหะออกมาได้แล้ว ทำให้คอโล่งมากขึ้น มีเสียงมากขึ้นไปด้วย

25 มิย
เริ่มมีอาการคันกลับมาใหม่ แต่ยังเป็นการคันเบาๆ ต้องดูอีกสักระยะว่าคันจากอะไร

8 กค
มีนัดกับหมอที่ไทยนครินทร์ครบ1เดือน เนื่องจากที่รามาเริ่มนัดห่าง6เดือน แต่ในระหว่างนี้อาการทั่วไปยังไมค่อยปกติเลยมาติดตามอาการที่ไทยนครินทร์เพิ่มเติม
  • อาการทั่วไปถือว่าขึ้น คอตึงลดลง กรามเจ็บลดลง ห้ามลืมนวดน้ำเหลือง ไม่งั้นจะปวดตึงมาก
  • มีเลือดติดน้ำลายออกมาตอนขาก
  • เสมหะเป็นสีออกเหลืองๆติดที่คอตอนนอน คุณหมออธิบายว่าขนพัดโบกร่วงไปตอนฉายแสง เซลล์พวกนี้จะกลับมาน้อยลงกว่าที่เคยเป็น จะมีอาการน้ำลายค้างเมือกค้าง ไม่ไหลลงคอ ให้ล้างจมูกบ่อยๆ แบบที่หมอรามาบอก
  • ได้ยาแก้แพ้มากินเพิ่มลดเมือก และลดการอักเสบของผิวหนังจะช่วยลดเลือดที่ติดมากับน้ำลายได้
  • ให้กินยา10วัน นัดอีกที1เดือน













18 กค
ยาที่กินครบ10วันแล้ว แต่เลือดยังไหล และไหลเพิ่มขึ้นออกมาเป็นกอง
  • หมอขอทำการส่องกล้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง
  • ไม่พบสิ่งผิดปกติ ผิวหนังบาง มีการอักเสบทั่วไป มีเลือดเกาะตามเมือก มีเมือกเยอะ
  • วินิจฉัยว่าเป็นหวัด หรือติดเชื้ออักเสบ ให้ยาแก้แพ้ตัวเดิมมากิน เพิ่มซูโด กับ ออกเมนตินมาด้วย
  • ให้กิน7วัน วันอังคารหน้ามีนัดกับหมอรามาค่อยเอารูปหลังโพรงจมูกไปให้หมอดู
  • วันนี้เริ่มกินเผ็ดได้บ้างแล้ว
  • เค็ม 120%เริ่มกลับมาปกติ
  • เริ่มมีรสหวานถูกต้องบางส่วน จากเดิมถ้าหวานจากน้ำตาลจะออกขมๆ แต่ถ้าหวานจากผลไม้จะหวานจางๆ ถ้าหวานในขนมจะจืดไปเลย
  • ยังมีเลือดออก แต่เริ่มจับทางได้ว่ามักจะออกมาตอนขากหรือจาม







Friday, May 19, 2023

NPC ตอนที่28 ติดตามผลการรักษาครั้งที่หก

 9 พค

มาพบคุณหมอ หูคอจมูกตามนัด เล่าให้หมอฟังเรื่อง เสียงแหบ หมอบอกว่าเป็นอาการปกติของคนฉายแสง ให้เรียนรู้อยู่กับมันไปตลอดชีวิต ได้ยากระตุ้นน้ำลายมาอย่างเดียว


17 พ.ค.

ไปทำ MRI ที่รามา เดิมนัดสองทุ่ม แต่ทาง รพ โทรมาเลื่อนเป็นเวลาบ่ายโมง โชคดีวันนี้เป็นพืชมงคล รพ โล่งมาก ทำ MRI สบาย ไม่ต้องรอคิวต่างๆนาน


19 พค

มาพบคุณหมอที่ไทยนครินทร์ เรื่องเสียงแหบหาย 

  • เล่าให้คุณหมอฟังว่าอาการเจ็บดีขึ้น แต่วันนี้มีอาการลิ้นชากลับมาได้สองวันเลยมาหาใหม่ 
  • เล่าถึงอาการครั้งที่แล้วว่า กินข้าวไม่ได้ เบื่ออาหาร แต่พอวันรุ่งขึ้นกินได้เยอะ เป็นเพราะยาตัวไหน คุณหมอเฉลยว่าเป็นจากสเตียรอยด์
  • คุณหมอส่องคอดูฝาปิดกล่องเสียง มีอาการแดงๆ น่าจะเนื้อเยื่ออักเสบ
  • คุณหมอดูคอพบว่ามีเสมหะพอสมควร
  • คาดเดาว่าอาการที่เกิดขึ้นมาจากพังพืดที่เป็นผลข้างเคียงจากการฉายรังสี สอบถามว่าทำไมเพิ่งจะเป็นตอนสองเดือน คุณหมอคาดว่าน่าจะเพราะมันเพิ่งจะพีค มีพังพืดหนามากในตอนนี้ทำให้เนื้อเยื่อรอบระคายเคือง เป็น reaction ของร่างกายคล้ายการสร้างแผลเป็น แต่โดยปกติร่างกายจะค่อยๆ ย่อยสลายพังพืดส่วนเกินภายใน 6เดือน ดังนั้นช่วงนี้ให้ประคองอาการไป หลัง6เดือนถ้ายังไม่หายค่อยมาหายสาเหตุอีกที
  • เรื่องลิ้นชา เจ็บแปลบ คุณหมออธิบายเพิ่มว่าเซลล์ประสาทตายไปจากการฉายแสง ยาไลลิก้าไม่ได้ช่วยสร้างเซลล์ประสาท แต่จะช่วยไปสร้างเซลล์ support อาหารให้ปลายประสาท เวลากินต้องกินคู่กับวิตามินบี12 เพื่อเป็นสารตั้งต้นให้เซลล์ประสาทเอาไปใช้ได้ รอบนี้ให้กิน 30วัน แล้วค่อยมาดูอาการอีกที
  • อาการคอแห้ง และเสมหะเกาะคอ คุณหมอแนะนำว่าล้างจมูกจะช่วยให้เสมหะหลุดง่าย เลยบอกไปว่าตอนนี้ล้างแค่ก่อนนอน ตอนเช้าไม่ได้ล้าง คุณหมอว่าควรทำด้วยจะช่วยได้เยอะ

หมายเหตุ
เซลล์ต่อมน้ำลายตายเพราะรังสีง่ายมาก แต่มีอัตราการแบ่งตัวช้ามาก ดังนั้นอาหารน้ำลายจะเป็นอาการแรก และนานที่สุด


21 พค
อัพเดทรูปบวมน้ำเหลือง ช่วงนี้บวมเยอะ




Friday, April 28, 2023

NPC ตอนที่27 ติดตามผลการรักษาครั้งที่ห้า

28 เมษา

วันนี้มีอาการใหม่คือเสียงเปลี่ยน เหนื่อยเวลาคุย จึงตัดสินใจไปหาหมอที่ รพ ไทยนครินทร์ ด้วยว่าใกล้บ้าน และมีคุณท่านนึงมาประจำ เป็นคุณหมอที่เคยไปปรึกษาครั้งแรกๆที่เป็นมะเร็งใหม่ๆ

เริ่มต้นจากการเล่าท้าวประวัติก่อน เพื่อให้คุณหมอคุ้นเคยข้อมูลสำหรับการวินิจฉัย บอกคุณหมอว่าตอนที่เจอมะเร็งครั้งแรก เนื้อเยื่อบอกเป็น SNUC แต่ทำ CT ระบุว่าเป็นซีส ทำให้ต้องรอ5เดือนกว่าเนื้องอกจะโตขึ้นมาจนตัดไปตรวจอีกครั้งได้ว่าเป็น NPC คุณหมออธิบายว่าตอนที่เป็น SNUC มันกว้างเกินไป ถ้าจะรักษาจริงๆต้องควานหาต้นทางให้เจอ ซึ่งมันจะยุ่งมาก การที่รอจนสามารถระบุรอยโรคได้จะง่ายกว่า สามารถระบุประเภทเซลล์ได้ จะสามารถกำหนดยาได้แม่นยำ แม้จะต้องการกับการเพิ่มระยะ เป็นขั้น2ที่ลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองก้อตาม

คือเรื่องนี้เป็นอะไรที่คาในใจมานานว่าตอนนั้นทำไมไม่ดื้อ รักษาไปจะได้เป็นแค่ระยะแรก วันนี้ได้คำอธิบายมาทำให้เหมือนทุกอย่างชัดเจน โล่งไปจากหัวทันที

กลับมาเรื่องเสียงแหบ หมอได้ตรวจต่อมน้ำเหลืองดู ไม่เจออะไร จึงขอส่องกล้องพบว่า เส้นเสียงบวมข้างซ้าย ส่วนสาเหตุแน่ๆ จะบอกไม่ได้ อาจจะมาผลของฉายแสงก้อได้แต่ความจริงคือแสงไม่ผ่านกล่องเสียง ไม่น่าจะโดน หรืออาจจะเป็นเชื้อรา อันมีสาเหตุตากน้ำลายแห้ง หรืออาจจะมาจากไทรอยด์ตกชั่วคราว วิธีการรักษาคือให้ยาเสตียรอยด์ระยะสั้นๆ เพื่อลดบวม คาดว่า7วันน่าจะหาย ช่วงนี้ให้งดใช้เสียงชั่วคราว

จากนั้นปรึกษาเรื่องรสชาติ เรื่องน้ำลายแห้งและปลายประสาทอักเสบ คุณหมออธิบายว่า ทั่วไป สองเดือนน่าจะเริ่มรับรสได้แล้ว แต่เรื่องที่รับรสแล้วเพี้ยน น่าจะมาจากประสาทที่แปรผลจากตุ่มรับรสมันเสียหาย หรือบางครั้งเซลล์ที่สนับสนุนปลายประสาทมันหายไป ดังนั้นจะทดลองให้รักษาปลายประสาทอักเสบไปกินดู ถ้ารสชาติกลับมาปกติ อาการอยากอาหาร หรือเบื่ออาหาร น่าจะดีขึ้น ส่วนเรื่องน้ำลายแห้งที่กินยา salagen อยู่ถ้าคิดว่าอาการค้างเคียงต่างๆเช่น อาหารไม่ย่อย เวียนหัวมึนงง มีผลมาจากยา ให้ทดลองหยุดยาแล้วดูอาการเองได้ ยาที่กินเป็นการกระตุ้นที่ปลายประสาท เฉพาะเมื่อกินเพื่อบรรเท่าคุณภาพชีวิต ไม่ได้มีผลต่อการรักษาในระยะยาว หมออธิบายเพิ่มว่าคนเรามีต่อม4ตำแหน่งกว้างๆคือ

  • ต่อมน้ำลายใต้ลิ้นจะเป็นต่อมน้ำลายที่มีถุงน้ำลายแต่ไม่ใหญ่มาก ตำแหน่งนี้ไม่น่าจะโดนรังสี ดังนั้นน่าจะทำงานปกติ
  • ต่อมน้ำลายข้างแก้ม เป็นต่อมขนาดใหญ่ ผลิตน้ำลายชนิดใส ตำแหน่งนี้มักจะโดนรังสีเต็มๆ และมักจะเสี่ยงต่อการเสียหายระยะยาว แต่อาจจะมีการฟื้นตัวได้บ้าง ไม่มาก
  • ต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกร เป็นต่อมขนาดใหญ่ ผลิตน้ำลายชนิดข้น ตำแหนงนี้โดนรังสีเช่นกัน แต่มักจะฟื้นตัวได้ก่อน จึงเป็นสาเหตุที่ปากจะมีน้ำลายเหนียวๆ มาก่อน (สามารถโดนกระตุ้นจากการเคี้ยวได้)
  • ต่อมน้ำลายกระจายตัวทั่วปาก เป็นต่อมขนาดเล็กที่ไม่มีถุงเก็บ มีหน้าที่ทำให้ปากชุ่มชื้น เมื่อโดนรังสี มักจะฟ่อและไม่กลับมา จึงเป็นเหตุให้คนที่ฉายรังสีปากจะแห้งถาวร

สรุปว่าคุณหมอจะให้ยารักษาปลายประสาทมากิน เผื่ออาการที่เพี้ยนต่างๆ จะมีเหตุมาจากประสาททำงานไม่ปกติ เช่นการรับรสชาติ คุยกับคุณหมอแล้วเหมือนได้ปรึกษาจิตแพทย์ คุณหมอรับฟังทุกอย่างใจเย็น อธิบายสิ่งที่เราสงสัยได้ละเอียดครบถ้วนหลายเรื่อง ยาที่ได้มาวันนี้

  • Prednisolone 5mg
  • Lyrica 75mg
  • Reparil dragees 20mg


29 เมษา

วันนี้เป็นแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่ตื่นมาแล้วรู้สึกอยากกินอาหาร ไม่สามารถหาเหตุผลได้ แต่คาดเดาสาเหตุได้หลายปัจจัย

  • อาจจะเนื่องจากยารักษาปลายประสาทที่กิน
  • อาจจะเพราะงดกินนมตอนเช้า
  • อาจจะเพราะเมื่อคืนนอนเร็วตั้งแต่สองทุ่มกว่า
  • อาจจะเพราะงดยากระตุ้นน้ำลายเช้ากลางวัน ตอนนี้กินแค่ก่อนนอน
30 เมษา
ตื่นเช้ามากับความรู้สึกหัวโล่งขึ้น ลิ้นไม่ชาแล้ว ทำให้รู้สึกอยากกินอาหารมากขึ้น เช้านี้กินผักสลัดได้มาก ไม่แสบลิ้น กินขนมปังชุบไข่ทอดได้3ชิ้นเป็นอะไรที่แปลกไปมากในรอบหลายอาทิตย์ 
มีอีกเรื่องคือการนอนที่เปลี่ยนไป นอนได้หลับสนิทมากขึ้น หลับแล้วไม่กระสับกระส่ายตื่นถี่ๆ แม้จะตื่นมาเข้าห้องน้ำ แต่พอนอนต่อสามารถต่อเนื่องได้ทันที ทำให้เช้ามาสดชื่นขึ้นมาก


1 พฤษภา
อาการวันนี้ปกติมาก สามารถกินข้าวได้ มีความอยากกินอาหารปกติ มื้อเที่ยงกินเบอร์เกอร์กุ้งทอดได้สบายมาก เย็นมีอาการอาหารไม่ย่อยของทอดมื้อเที่ยง แต่ก้อยังพอกินข้าวเย็นได้พอประมาณ

การที่กินข้าวได้เป็นเพราะอาการเลี่ยนเหม็นอาหารหายไปหมด อาการสากที่ลิ้นหายไปหมด ลิ้นไม่ชา เวลากลืนไม่มีอาการติดที่คอ สามารถกลืนได้ง่ายขึ้น


2 พฤษภา
เช้ากินข้าวได้ปกติ กินน้ำช่วยเหลือเพียงแก้วเดียวแล้ว จากเดิมอาทิตย์ที่แล้วต้องใช้น้ำกินสองแก้ว มื้อเที่ยงไปกินบะหมี่หมูแดงได้รสชาติดี ไม่ต้องใช้น้ำช่วยในการกินเลย






Friday, April 21, 2023

NPC ตอนที่26 ติดตามผลการรักษาครั้งที่สี่

 ข้อคิดในวันนี้ คนเรายึดติดกับความทรงจำในอดีต และความคาดหวังในอนาคต ไม่เคยพอใจในความเป็นปัจจุบัน นี่คือตัวตนที่ทำให้เรามีความทุกข์ การอยู่กับปัจจุบันจะทำให้เรามีความสงบและสุขในใจได้ขึ้น


16เมษา

มีอาการมึนหัวตึง มาหลายวันแล้ว วันนี้ทนไม่ได้จึงไปหาหมอที่ไทยนครินทร์ ขอให้หมอช่วยตรวจเลือดดูไทรอยด์ให้หน่อย เพราะเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงเหลือ54.5ในตอนเช้า เท่ากับหายไปประมาณ 1.5 กิโล และยังมีอาการนอนกระสับกระส่าย ตื่นบ่อย ดูร่างกายเพี้ยนๆชอบกล

ผลเลือดบอกว่าทุกอย่างปกติดี อาจจะมีค่าเลือดจางกับเม็ดเลือดขาวต่ำไปนิดนึงแต่ถือว่าปกติสำหรับคนให้คีโม หมอให้วิตามินบี12มากินเพื่อกระตุ้นปลายประสาท คาดหวังว่าอาการมึนๆน่าจะดีขึ้นใน7วัน

ช่วงนี้ต่อมรับรสเริ่มมาครบทุกรสแล้ว แต่สัดส่วนยังเพี้ยน เค็มได้ 60% เปรี้ยวได้50% หวานได้20% ขมยังไม่ชัด รสกลมกล่อมยังไม่ชัด เวลากินอาหารอะไรต่างๆจะรสชาติแปลกๆ ขนลุกไปทุกจาน


20เมษา

หมอร่างสภาพร่างกายทั่วไป ดูอุปกรณ์ว่ามีอะไรพังเพิ่มเติมไหม 

  • จมูกไม่มีตัดไม่มีเลือดออก คลำคางไม่มีก้อน คลำคอไม่มีก้อน มีแต่อาการบวมน้ำเหลืองเล็กน้อย 
  • สอบถามเรื่องการมึนหัว หมอคาดเดาว่าน่าจะเป็นข้างเคียงของยากระตุ้นน้ำลาย หมออธิบายการทำงานของยาว่า ไปกระตุ้นที่ปลายประสาทเพื่อให้ต่อมน้ำลายทำงานเพิ่ม มักจะใช้ยานี้ให้ช่วงแรกๆหลังการฉายแสงเพื่อให้ต่อมน้ำลายได้ถูกกระตุ้นในช่วงที่รอให้ร่างกายสร้างเซลล์ต่อมน้ำลายมาทดแทน โดยหวังผลว่าเมื่อหยุดยาแล้วการทำงานของต่อมน้ำลายจะยังคงอยู่ แต่เนื่องจากเป็นยาที่กระตุ้นปลายประสาท “อาจจะ” ส่งผลให้ปลายประสาทที่อื่นทำงานผิดปกติได้ ถ้าต้องการทดสอบให้หยุดยากระตุ้นน้ำลายแล้วสังเกตอาการใหม่ แต่ทั้งนี้หากทนกับผลข้างเคียงได้ อาจจะใช้ยาต่อไปได้
  • ดูช่องปากแล้วน้ำลายเป็นฟอง หมอย้ำว่าอย่าลืมแปรงลิ้นด้วย ป้องกันเป็นเชื้อรา
  • พยายามเคี้ยวอาหารปกติให้มากขึ้น การเคี้ยวบ่อยๆจะช่วยกระตุ้นน้ำลายได้
  • ให้นวดน้ำเหลืองเช้าเย็น โดยการกดหมุนๆแล้วลูบลงตามคอ
  • นอนหมอนสูงให้น้ำเหลืองไหลลงง่ายขึ้น
  • ให้ล้างจมูกบ่อยๆ ตามขั้นตอนปกติ
  • หมอบอกว่าตอนฉายแสงได้ป้องกันต่อมน้ำลายไว้แล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดไป น้ำลายจะกลับมาประมาณ50%ภายใน1ปี น้ำลายจะไม่กลับมา100% แต่ถ้า1ปีไปแล้วน้ำลายไม่มาคือไม่มีแล้วให้ทำใจ
  • อาการเวียนหัวหน้ามืด น่าจะมาจากความดันต่ำ ให้ออกกำลังกายเบาๆ ช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้น
  • หมอสรุปตอนท้ายให้ว่า ออกไปใช้ชีวิตได้แล้ว ทำตัวให้ปกติ เริ่มออกกำลังจะทำให้แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ


ช่วงนี้กินอาหารอะไร ก็ไม่อร่อย มีอาการคลื่นไส้ ชวนขนลุกไปทุกจาน เห็นอาหารแล้วสะอิดสะเอียน ไปทุกเมนู จะแก้วงจรนี้ยังไงได้บ้างเนี่ย ฤาอาจจะต้องรอจนกว่าต่อมรับรสจะมาปกติแล้วอาหารได้อร่อยไหม




Thursday, March 23, 2023

NPC ตอนที่25 ติดตามผลการรักษาครั้งที่สาม

 สรุปไทม์ไลน์แพ้ยา ยังไม่รู้ว่าแพ้ตัวไหน แต่จดไว้ก่อน

  • 7 มีค เริ่มกินยา SalaGen
  • 9 มีค เริ่มกินยาจีนตัวใหม่
  • 12 มีค เริ่มคันเบา คิดว่าแพ้ฝุ่น PM2.5 ไม่ได้กินยาแก้แพ้ใดๆ
  • 16 มีค มีอาการจมูกตัน หายใจไม่ออกตอนนอน ต้องนอนหมอนสูงสองชั้น
  • 18 มีค มีอาการปากบวมเจ่อ กินอาหารแสบร้อนไปหมด คิดเองว่าเป็นเพราะรังสีทำเนื้อเยื่ออักเสบ
  • 19 มีค อาการปากบวมยังอยู่ ขอบปากแห้ง มุมปากแตก
  • 20 มีค มีผื่นขึ้นเป็นตุ่มใสเต็มแขน รีบหยุดยาทุกอย่างแล้วไปหาหมอ
  • 22 มีค ผื่นตุ่มใสกลายเป็นตุ่มแดงแบน คันไปทั่วตัว หนังจมูกลอก
23 มีค
อัพเดทเรื่องแพ้ยา
  • ผื่นที่แขนเริ่มยุบเป็นรอยแดงๆ
  • ผื่นที่ขายังเป็นหนาๆ คันๆ
  • จมูกเริ่มโล่ง
  • ปากบวมเริ่มยุบ กินข้าวแล้วไม่แสบแล้ว
  • ผนังคอเริ่มกลืนง่ายขึ้น
เนื่องจากอาการเริ่มดีขึ้น ตอนเช้าเริ่มกินยาจีนเป็นแก้วแรก แล้วไปหาหมอจีนที่หัวเฉียวตอนเย็นกลับมากินยาจีนแก้วที่สอง ตอนไปหาหมอจีนอัพเดทอาการให้หมอฟัง
  • เนื่องจากหยุดยาจีนไปสามวันเริ่มมีอาการท้องผูกสามวัน ถ่ายยาก
  • นอนหลับดี
  • มีแรงพอจะวิ่งได้ดี
  • ไม่มีแผลในคอแล้ว
  • กลืนไม่สำลักแล้ว
  • ลิ้นแตกมีเลือดไหล แสบเวลากิน
  • เริ่มมีรสชาติบ้างแต่ยังเพี้ยนเช่นกินหวานได้เปรี้ยว
  • กินข้าวได้ดีขึ้น ไม่เหม็นน้ำมันเจียวแล้ว
24 มีค
ตื่นเช้ามาพร้อมกันอาการปากบวม หน้าบวม จมูกตัน คอตีบ แสบปาก ลิ้นชา เหมือนแพ้ยาอีกแล้ว รีบแชทไปหาหมอจีนบอกว่า รอบนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าแพ้ยาจีนแน่นอน ทำการตรวจใบสั่งยาย้อนหลังพบว่าวันที่ 9 มีค มีตัวยาใหม่มาสองตัวที่เพิ่มเข้ามา หมอจีนบอกว่าให้หยิบเอาออกก่อนที่จะต้ม แต่รอบนี้ให้รอจนกว่าจะหายสนิทก่อนแล้วค่อยเริ่มกินใหม่อีกที

26 มีค 
เช้านี้อาการแพ้ลดลงแล้ว ไม่คันเท่าไหร่ ปากบวมลดลง จึงตัดสินใจเข้าไปหาหมอจีนให้ช่วยจัดยาชุดใหม่ที่ไม่มียาสองตัวที่คาดว่าจะแพ้ เอามา4ห่อลองกินดูก่อนว่ายังแพ้อีกไหม

28 มีค
หลังจากกินยาที่รับมาใหม่ไป 3 รอบ เช้านี้เริ่มมีอาการคัน ปากเริ่มบวมอีกรอบ คงต้องตัดสินใจหยุดยาไปก่อนสักระยะเลย วันพฤหัสนี้จะเข้าไปพบหมอจีนอีกรอบ คราวนีอาจจะขอให้เว้นระยะเพื่อพักยาไปเลยละกัน

29 มีค
หลังจากหยุดยาทุกอย่างอาการบวมเริ่มลดลง อาการชาเริ่มหาย ลิ้นชาเริ่มดีขึ้น พบว่ากินข้าวได้รสเค็มประมาณ 50% เปรี้ยวประมาณ 10% หวานหายไปเลยเหลือ 0% (จากอาทิตย์ก่อนได้หวานประมาณ 5%)

31 มีค
หลังจากหยุดยาจีนมาสักระยะแล้ว ปากบวมน้อยลง วันนี้จะเริ่มกินยา SalaGen ใหม่ เพื่อเช็คว่าแพ้ยาตัวไหนกันแน่

3 เมย
ปากไม่บวมเพิ่มขึ้น แต่มีคันตามตัวตามแขน ไม่มีผื่นไม่มีเม็ด คาดว่าอาจจะแพ้อากาศร้อน เพราะทาคาลาไมน์แล้วหา ไม่ต้องกินยาแก้แพ้

4 เมย
อาการแพ้หายหมดแล้ว ทั่วไปเริ่มดีขึ้น เย็นนี้จะทดลองกินยาจีนชุดเล็กที่มีตัวอย่างลดความร้อนกับกระตุ้นน้ำลายดูว่ายังจะมีอาการแพ้อีกไหม

5 เมย
วันนี้สะบักสะบอมมาก เช้ามาปากบวม ลิ้นชา ลิ้นคับปากพูดไม่ชัด คอตีบกลืนน้ำลายลำบาก จมูกตันต้องนอนหมอนสูง เช้างดข้าวเพราะกลืนไม่ได้ ย้ายไปกินนมเอนชัวร์แทน เที่ยงกินข้าวต้มนิ่มๆ เย็นถึงจะเริ่มกินข้าวสวยได้นิดหน่อย แต่อาการคอตีบยังมีอยู่

6 เมย
เช้ามาเริ่มดีขึ้นแล้ว เมื่อคืนนอนได้ยาวขึ้นไม่ตื่นบ่อย ไม่ต้องหนุนหมอนสูงแล้ว แต่คอยังกลืนน้ำลายยากอยู่ สิ่งที่เพิ่มมาวันนี้คือเริ่มได้รสหวานกับขมเพิ่มมานิดหน่อยแล้ว กินหมูปิ้งได้แล้ว ไม่สากปาก มีรสชุ่มเนื้อนิดหน่อย

15 เมย
มีอาการไม่ปกติเก็นประมาณ 6-7วันแล้ว
  • เมื่อยกล้ามเนื้อแขนและหลัง
  • มึนงง เหมือนเวียนแต่ไมใช่เวียนหัวปกติ
  • มีอาการวูบ เหมือนหน้ามืด มองไม่ชัด
  • น้ำหนักลงเร็ว บางวันเหลือ 54.9กก


Thursday, March 16, 2023

NPC ตอนที่24 ติดตามผลการรักษาครั้งที่สอง

 16 มี.ค.

อาการวันนี้

  • ผนังคอเจ็บน้อยลง
  • แผลในปากเริ่มเกิดน้อยลง ไม่มีแผลใหม่ประทุขึ้นแล้ว
  • จมูกเลือดหยุดไหลแล้ว
  • ผนังปากเริ่มลดบวมลงแล้ว
  • เวลานอนมีอาการจมูกตัน นอนหมอนสูงพอช่วยได้
  • น้ำลายแห้งยังรุนแรงเช่นเดิม เวลากินข้าวคำต้องตามด้วยน้ำคำตลอด
  • ลิ้นยังไม่ได้รสชาติแต่อาการชาลดลงแล้ว
  • รอยไหม้ที่ผิวคอลอกหมดแล้ว แต่ผิวหนังยังสากๆด้านๆ
  • ใต้คางเริ่มมีน้ำเหลืองกอง ตามที่หมอบอก เนื่องจากต่อมน้ำเหลืองถูกทำลาย ต้องคอยนวดไล่น้ำเหลืองทั้งวัน
  • ตอนเย็นเริ่มไปวิ่งเบาๆได้แล้ว แต่ยังเพลียๆเล็กน้อย วิ่งเร็วไม่ไหวหน้ามืด

หมอจีน
  • ชีพจรดูแข็งแรงดี ไหลเวียนดีขึ้น
  • มีอาการร้อนข้างในอยู่ จะให้ยาดับร้อนเพิ่มไป


17 มีค
  • ลิ้นเป็นฝ้าสีขาว ไม่รู้ว่าเป็นเชื้อราหรือเป็นคราบลิ้นธรรมดา

19 มีค
  • ริมฝีปากบวมเห่อตอนเช้าหลังตื่นนอน มีความรู้สึกเจ็บ หนังแห้งร่อน 
  • ตอนนอนหายใจลำบากจมูกตัน ล้างจมูกไม่หาย
  • ผิวหนังแพ้เป็นตุ่มคันตามตัว แต่ไม่ได้เป็นผื่นลมพิษเหมือนที่เคยเป็น
  • ลิ้นฝ้าขาวหายไปแล้ว
  • กินอาหารหวานได้เป็นรสเปรี้ยว กินมะพร้าวกะทิ ได้รสเปรี้ยวเหมือนมะพร้าวเสีย
  • กินข้าวผัดได้ กินข้าวหมูแดงได้แล้ว แต่ยังไม่มีรส
20 มีค
  • เป็นผื่นเหมือนแพ้ยา ปากยังบวมอยู่ คงต้องไปหาหมอละ
  • หมอบอกว่า อาการผื่นมาจากแพ้ได้หลายอย่าง แต่ถ้ามีปากบวมร่วมด้วย การแพ้ยาน่าสงสัยมากกว่า
  • หมอให้หยุดยา ที่เพิ่มเริ่มกินตัวล่าสุด นั่นคือ ยากระตุ้นน้ำลายที่เพิ่งเริ่มวันที่ 7 มีค
  • กลับไปอ่านบันทึกวันที่ 12 เริ่มมีอาการคันไปทั่วๆ น่าจะเริ่มแพ้ยาตั้งแต่วันนั้น เพียงแต่ยังไม่สะสมรุนแรงเพราะกินแค่ครึ่งเม็ด
  • ได้ยาแก้แพ้มาสองตัว ตัวนึงกิน ตัวนึงทา












21 มีค
  • อาการปากบวมเริ่มดีขึ้น บวมลดลง ไม่มีอาการตึงปาก แสบปากเท่าไหร่แล้ว แต่รอบปากยังชาๆอยู่
  • อาการผื่นคันยังเยอะเหมือนเดิม ผื่นจากตุ่มใสๆเล็กๆ การเป็นแดงๆ บานๆ
  • ผิวหนังรอบจมูกลอกเป็นขุยๆ
  • เมื่อวานผื่นมีที่แขนและขา แต่วันนี้ผื่นเริ่มลามมาที่ตัวเพิ่มขึ้น
  • พอหยุดยา SalaGen อาการปากแห้งนี่รุนแรงมาก ลิ้นด้านทั้งวัน ปากแตกแห้ง
  • จมูกไม่มีเมือกแล้ว ไม่มีเลือดไหลแล้ว







22 มีค
  • ยังคันเหมือนเดิม
  • ยังมีผื่นอยู่ แต่ดูเหมือนรอยแดงจะลดลง เหลือเป็นเม็ดบานๆ เต็มแขนไปทั่ว
  • รอบปากยังชาเหมือนเดิม
  • ลิ้นแห้งแตกเลือดออก
  • หายใจดีขึ้นไม่ติดขัดไม่ตัน นอนหลับดีขึ้น
  • รอบจมูกเป็นขุยเหมือนเดิม มุมปากแตกเป็นแผลนกกระจอก







      Tuesday, March 7, 2023

      NPC ตอนที่23 ติดตามผลการรักษาครั้งแรก

       7 มีค. มีนัดตรวจกับหมอENT

      • หมอบอกว่าจมูกยังแห้งอยู่ให้ล้างจมูกเช้าเย็นต่อไป
      • ยากระตุ้นน้ำลายให้พยายามกิน จะช่วยเรื่องน้ำลายแห้งได้ในระยะยาว ถ้ากินแล้วอาการข้างเคียงเยอะให้กินแค่ครึ่งเม็ด

      จากนั้นไปเจาะเลือดไปตรวจว่าจบคีโมแล้วร่างกายฟื้นฟูได้แค่ไหน ชั่งน้ำหนักได้ 57.6 กลับมาเท่าสองสัปดาห์ก่อน หมอคีโมใช้วิธีอ่านผลค่าเลือดทางโทรศัพท์ นัดเวลาไว้ตอนเย็นๆ

      • ค่าเลือดดี ค่าไตดี 
      • หมอบอกว่าถ้ายังกินได้แบบนี้ คงไม่ต้องใส่สายอาหารทางจมูกแล้ว
      • อย่ากินนม เกิน 40ช้อนต่อวัน ให้พยายามกินอาหารปกติให้มากขึ้น
      • ค่าเลือดจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ
      • รสชาติจะกลับมาปกติ เป็นลำดับสุดท้าย





       9 มีค. มีนัดตรวจกับหมอจีน

      • หมอจีนบอกว่าควรกินยาต่อเนื่องหลังฉายแสงครบอีก2-3เดือนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
      • ถ้าจะกินยาเพื่อป้องกันมะเร็งเกิดใหม่อาจจะต้องกินต่อเนื่อง1-2ปี

      12 มีค. อัพเดทอาการช่วงนี้

      • แผลที่ผนังคอด้านในหายหมดแล้ว
      • แผลที่ลำคอไม่เห็นแล้วแต่ยังเจ็บๆอยู่บ้าง
      • ปลายลิ้นเริ่มรับรสหวานได้นิดๆแล้ว
      • รสชาติน้ำเปล่ายังเพี้ยนเหมือนเดิม
      • จมูกยังคงมีเลือดไหลซึมๆ ล้างจมูกพ่นยาเช้าเย็นพอช่วยได้บ้าง
      • เริ่มมีอาการคันกลับมาใหม่

      Monday, March 6, 2023

      NPC ตอนที่22 บทสรุปการรักษา

      หลังจากเจอมะเร็งครั้งแรก https://www.mrprin.net/2022/06/blog-post.html ตอนนี้ผ่านการรักษามาแล้ว ขอสรุป key message หลักๆ สรุปเอาไว้ให้ตัวเองในวันที่ผ่านช่วงเวลานี้ไป

      เริ่มจากความรู้พื้นฐานและขั้นตอนการรักษามะเร็ง จากการอ่านศึกษาทั่วไปพอจะสรุปแนวทางการรักษามะเร็งทั่วไปอย่างคร่าวว่าขั้นตอนการรักษาจะมี 3 ขั้นคือ

      1. ผ่าคว้านเอาเนื้อมะเร็งให้ออกไปเยอะที่สุด อาจจะกินพื้นที่เข้าบริเวณเนื้อดีบ้าง
      2. ฉายแสงเพื่อระงับการเดิบโตของเซลล์มะเร็งรอบๆบริเวณที่มีเซลล์มะเร็ง
      3. คีโมเพื่อระงับการเดิบโตของเซลล์มะเร็งที่กระจายผ่านเลือดหรือน้ำเหลือง

      หากเป็นมะเร็งที่มีการกระจายตัวช้า เช่นลำไส้หรือต่อมลูกหมาก บางทีจะเจอว่าแค่ผ่าออกไปแล้วจบการรักษาได้เลย แต่ถ้ามีการกระจายตัวไปพื้นที่ข้างเคียงอาจจะต้องมีการฉายแสงเพื่อระงับเซลล์มะเร็งที่แทรกตัวไปแต่ยังไม่ก่อนตัวเป็นก้อน หรือหากกระจานผ่านของเหลวได้ง่ายก็จะมีการให้คีโมเพื่อช่วยอีกทาง ทั้งหมดนี้คือสรุปเอาเองจากที่อ่านข้อมูลมา

      ####################

      การเตรียมตัว

      • การรักษามะเร็งโดยปกติจะรับการรักษาจากหมอ3ท่านคือหมอเฉพาะทาง หมอรังสี และหมอคีโม
      • เช่นในกรณีนี้เป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกจะมีคุณหมอโสตศอนาสิก(ENT)เป็นเฉพาะทาง หากมีเหตุต้องผ่าตัดหรือตัดชิ้นเนื้อ คุณหมอENTจะเป็นคนดำเนินการให้
      • หลังจากนั้นจะถูกส่งตัวมารับคำปรึกษาจากหมอรังสีเพื่อรับการฉายแสงเป็นจำนวนทั้งหมด 33ครั้งด้วยเครื่อง True Beam ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ หยุดเสาร์อาทิตย์และวันนขัตฤกษ์ โดยการการฉายจะต้องมีการทำหน้ากาก และทำ CT simulation เพื่อกำหนดองศาและตำแหน่งของการฉาย
      • ระหว่างที่ฉายแสงจะถูกส่งตัวไปรับการให้ยาเคมีบัตบำในกรณีเป็นการให้ยา Cisplatin เพื่อเสริมการฉายแสงให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยโดสที่จะได้รับคือ 240mg/m^2 โดยแบ่งให้เป็นรอบ รอบละ40mg/m^2 (เมื่อคำนวณน้ำหนักตัวแล้วจะได้ยาจำนวน 65mg)
      • ก่อนการฉายแสงจะต้องไปเช็คสภาพฟันเพราะหลังจากที่ฉายแสงไปแล้วกระดูกกรามและเนื้อเยื่อบริเวณกรามจะเป็นเนื้อเยื่อโดนรังสีไปตลอดชีวิต การซ่อมแซมร่างกายจะช้า ในกรณีที่ต้องถอนฟันอาจเกิดภาวะ ORT คือเนื้อเยื่อไม่ปิดทำให้กระดูกกรามเปิดนานเกินไปและเกิดภาวะกระดูกตายที่กราม หลังจากซ่อมฟันหรือถอนฟันจนเสร็จหมดแล้วในอนาคตจะไม่มีการถอนฟันอีกโดยหลักการจะใช้วิธีการอุดหรือครอบเป็นหลัก หากจำเป็นต้องถอนจะต้องมีการรักษาภายใต้การดูแลของทันตแพทย์แบบพิเศษที่เรียกว่า hyper oxygen condition
      • ไปติดต่อรับการบำรุงร่างกายจากแพทย์แผนจีน รพ.หัวเฉียว เพื่อป้องกันไม่ให้มีภาวะปากอักเสบรุนแรง และได้กินยาจีนทุกวันตลอดการรักษายกเว้นวันที่ให้คีโม และกินเหล่งเอี้ยงลดความร้อนจากรังสีเฉพาะวันที่ฉายแสง ผลที่ได้รับค่อนข้างพอใจคือไม่ต้องใส่สายอาหารทางจมูก สามารถเคี้ยวและกลืนเองได้แม้จะมีแผลเจ็บตอนกลืนบ้างแต่ยังพอทนได้

      ####################

      อาการข้างเคียง

      • จมูกจะมีน้ำเมือกและเลือดซึมตลอดเวลา อาจเป็นผลมาจากรังสีทำให้เนื้อเยื่ออักเสบ หมอ ENT ให้ทำการล้างจมูกเช้า 250cc และเย็น 250cc พร้อมพ่นยารักษาแผล ผลที่ได้คือพอจะพยุงไม่ให้เลือดไหลเป็นโจ้กได้บ้าง ยาที่พ่นจะไปเคลือบแผลไว้แล้วแห้งแข็งเป็นก้อน ข้อดีคือเลือดไม่ไหลข้อเสียคือล้างจมูกรอบต่อไปทำได้ยาก วิธีแก้คืออัดน้ำเข้าจมูกไปก่อน 1รอบแล้วค้างไว้ไม่ต้องสั่งออก จากนั้นไปแปรงฟันหรืออาบน้ำ แล้วจึงมาล้างจมูกต่อ จะช่วยให้แผลที่แห้งนิ่มตัวลงแล้วสั่งออกได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่ล้างออกจะทำให้ยาพ่นไม่สามารถไปเคลือบผิวเนื้อเยื่อสดๆได้
      • ภายในลำคอจะมีแผลผุพองเป็นตุ่มใสๆเมื่อแตกออกจะเป็นแผลคล้ายร้อนใน โดยมากจะเป็นหลังให้คีโมประมาณ 1-2 วันแล้วแผลจะทุเลาดีขึ้นใน 4-5วัน จากนั้นจะเริ่มรอบถัดไป ซึ่งเมื่อสะสมแผลทบไปเรื่อยๆ แผลจะเจ็บมากสุดหายยากสุดตอนที่ฉายแสงไปได้ประมาณสัปดาห์ที่ 6 หรือก็คือช่วงท้ายๆ จะมีแผลระบมเต็มปากไปหมด หมอรังสีให้ยาเบตาดีนสำหรับบ้วนปากมาใช้เพื่อลดการอักเสบ และหมอจีนให้ยาพ่นแตงโมมาใช้เพื่อเสริมการสมานแผล
      • ปากและลิ้นจะเป็นแผลเหมือนในลำคอ แต่จะมีอาการบวมและชาเพิ่มเข้ามา ข้อแตกต่างคือลำคอจะเจ็บตอนกลืนแต่ปากและลิ้นจะเจ็บตอนพูดทำให้พูดไม่ชัด ดื่มน้ำติดขัดก็เพราะลิ้นเจ็บนี่แหละ
      • น้ำลายแห้งเป็นอุปสรรคหลักในการดำเนินชีวิต เพราะนอกจากจะทำให้คอเจ็บมากขึ้น ฟันผุได้ไวขึ้น ยังทำให้ผนังคอแห้งเวลานอนจะลำบากและตื่นบ่อย ตัวน้ำลายจะเปลี่ยนสภาพจากของเหลวใสๆเป็นเมือกข้นๆเหนียวๆ ทางหมอENT ให้ยากระต้นต่อมน้ำลายมากินเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำลาย แต่ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ กินทีไรเหงื่อออกเต็มไปหมดแต่น้ำลายยังแห้งเหมือนเดิม
      • ผิวหนังคอรอบนอกจะไหม้เกรียมในสัปดาห์ที่ 5 และจะกรอบในสัปดาห์ที่ 6 พอเข้าสัปดาห์ที่ 7 จะเริ่มลอกเป็นแผ่นๆ คุณหมอสั่งห้ามถู ห้ามโดนสบู่ ห้ามแกะ เพราะเนื้อเยื่อผิวหนังใหม่จะเติบโตช้าหากไปถูกหรือแกะออกก่อนที่มันจะสร้างใหม่เสร็จจะเกิดภาวะผิวหนังไม่แห้งเป็นน้ำเหลืองและอาจนำไปสู่การติดเชื้อดังนั้นต้องระวังจุดนี้ดีดี
      • กล้ามเนื้อบ่าคอจะโดนรังสีทำให้เกิดการระคายเคือง ร่างกายจะทำการสร้างเนื้อเยื่อและพังพืดมาซ่อมแซมบริเวณบ่าและคอ ดังนั้นต้องคอบริหารบ่าคอโดยการหมุนคอซ้ายขวาเช้าเย็นทุกวัน
      • กล้ามเนื้อกราม เช่นกันกับกล้ามเนื้อบ่าคอ กรามจะโดนรังสีทำให้เกิดพังผืดบริเวณปลายกราม จึงต้องฝึกอ้าปากให้กว้างโดยต้องวัดว่า ณ วันแรกเราอ้าได้เท่าไหร่ โดยระหว่างฝึกจะต้องมาเทียบกับวันแรกเสมอ ทางพยาบาลแนะนำให้ใช้ต่อ PVC วัด เพราะสามารถจำเบอร์ได้ว่าเป็นเบอร์อะไร
      • การรับรู้รสชาติดับสิ้นในสัปดาห์ที่ 2 ของการฉายแสง เวลากินอะไรจะรู้แค่จืดและจืด แต่ความลำบากจะเกิดในสัปดาห์ที่ 4 เป็นต้นไปเพราะนอกจากจะไม่รู้รสชาติแล้วบางครั้งยังเกิดเหม็นกลิ่นอาหารคาว โดยเฉพาะเหม็นน้ำมันผัด น้ำมันเจียว ทำให้อาหารที่จะเลือกกินต้องตัดพวกผัดและทอดออกไปจนหมด แม้กระทั่งก๋วยเตี๋ยวที่ใส่น้ำมันเจียว เวลากินจะเลี่ยนๆมันๆ ทำให้คลื่นไส้อยากจะอ้วกตลอด
      • การกินค่อยข้างเลือกกินเนื่องจากผนังปากและลิ้นบวมเวลากินอาหารที่มีไขมันความรู้สึกคือจะโดนเคลือบเป็นไข ที่ผนังแก้มและเหงือกทำให้ความสามารถในการกินลดลงอย่างมาก ดังนั้นอาหารหลักที่เลือกกินตลอดสองเดือนคือข้าวต้มถั่ว และโจ้กไข่ ไม่สามารถกินหมูได้เนื่องจากเนื้อสัตว์มีความหยาบเวลากลืนจะติดที่ลำคอแสบและเจ็บ
      • น้ำหนักตัว คุณหมอคีโมจะคอยจับตาดูเรื่องน้ำหนักตลอดการรักษา เพราะน้ำหนักจะเป็นผลที่บอกว่าเรากินอะไรได้ดีแค่ไหน หากร่างกายกินได้น้อยจะส่งผลให้ค่าเลือดตก ไม่ว่าจะเป็นค่าเกล็ดเลือด ค่าเม็ดเลือดขาวและค่าอื่นๆอีกหลายตัว ดังนั้นน้ำหนักตัวจะเป็นด่านแรกที่ต้องควบคุมให้คงที่ วันแรกที่เข้ารับการรักษามีน้ำหนัก 57.1 และสัปดาห์ที่ 7 ชั่งได้ 56.8  จากการทดลองกินนมล้วนๆ กับกินข้าวล้วนๆ สามารถสรุปได้ว่า การกินข้าวครึ่งชามกับกินนม 1 แก้ว ควบคู่ไปทุกมื้อ จะรักษาน้ำหนักได้ดีสุด โดย 1 แก้วคือ นม 10 ช้อนกับน้ำ 250แแ
      • ค่าไต นอกจากค่าเลือดที่เกี่ยวโยงกับน้ำหนักตัวแล้วยังมีค่าไตที่ต้องพยายามรักษาตลอดการรักษา เพราะยาคีโมเป็นพิษต่อไต คน 1 ใน 10 จะเกิดภาวะไตวาย และถ้าค่าไตขึ้นแล้วมักจะเอาลงไม่ได้กลายเป็นไตเสื่อมในระยะยาว วิธีป้องกันคือต้องดื่นน้ำให้ได้มากกว่าวันละ 2ลิตร หรือถ้ารวมของเหลวอื่นๆแล้วควรจะได้มากกว่า 2.5ลิตรต่อวัน

      ####################

      ค่ารักษา 

      • ค่าฉายรังสีเฉลี่ยครั้งละ 10000บาท ทั้งหมดฉาย 33 ครั้ง
      • ค่าคีโมเฉลี่ยครั้งละ 4000บาท ทั้งหมด 6 ครั้ง
      • ค่าตัดชิ้นเนื้อตรวจ 20000 บาท
      • ค่า MRI 15000 บาท
      • ค่า CT Simulation 10000 บาท
      • ค่าวางแผนรักษา 30000 บาท
      • ค่าหน้ากากฉายรังสี 12000 บาท
      • ค่ายาจีนบำรุงร่างกายเฉลี่ย 3000บาท ทั้งหมด 10 ครั้ง

      เอาตัวเลขกลมๆคือประมาณ 5แสนบาทเป็นราคาคลินิคนอกเวลาเนื่องจากถ้าต้องรอคิวประกันสังคมจะได้คิวรักษาอีก 3 เดือน ทางที่ดีใครพอจะทำประกันมะเร็งแบบ เจอ-จ่าย-จบ ได้จะช่วยได้เยอะ ราคาเบื้ยสำหรับทุนประกัน 5 แสนตกประมาณเดือนละ 300บาท หรือปีละ3500บาท คิดคร่าวๆว่าทำไป 10 ปีแล้วไม่เป็นเท่ากับจ่ายทิ้งไปประมาณ 4หมื่น แต่ถ้าเป็นจะได้คืน 5แสนบาทถือว่าเป็นการทำที่ค่อนข้างคุ้มค่า

            ####################

            เรื่องทั่วไป

              • บางครั้งก็จิตตกปรับตัวค่อยได้ เบื่อไปทุกอย่าง
              • บางครั้งก็คิดว่าหากกินอะไรไม่ได้ ออกนอกบ้านไม่ได้ ชีวิตช่างดูไร้ค่าจริงๆ การนั่งเฉยๆในบ้าน การมองคนอื่นกินอาหาร
              • หลังจากหายแล้วเราควรมีความสุขกับการได้กิน ดีกว่ากินอะไรไม่ได้
              • เรืองการกิน อะไรที่อยากกิน อยากลอง ให้เลือกกินบ้างไม่ใช่ว่ากินๆเข้าไปเพื่อแค่อิ่ม ต้องดูเรื่องสารอาหารและคุณค่าด้วย
              • เรื่องการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับการกิน
              • และอื่นๆ ที่ยังคิดไม่ออก

              Monday, February 27, 2023

              NPC ตอนที่21 สัปดาห์เก็บตก/คีโมครั้งที่6

              เนื่องจากมีหยุดฉายแสงไป 1 ครั้งเพราะซ่อมเครื่องกับมี delay คีโมจากที่มีอาการปวดท้องมาก ทำให้ตารางที่วางไว้คลาดเคลื่อนไป จึงต้องมาเก็บตกในอาทิตย์นี้เพิ่มเติม


              27 กพ. นอนตื่นสาย ทำให้กินนมเช้าไม่ทัน หายไป1แก้วเลยวันนี้ มื้อเช้ากินโจ้กไข่เสริมนม1แก้ว ลิ้นยังชาอยู่ ในปากมีแผลมากขึ้นอีกแล้ว เจ็บระบมไปทั่วๆ แต่ไม่เจ็บมาก นี่เพราะหยุดยาจีนตอนเย็นไป2วัน(อีกละ) ต้องเลิกทดสอบได้แล้ว เห็นผลทันตาทุกครั้งที่หยุดเลย 

               มีนัดกับหมอฟันบ่าย2 ออกจากบ้านเที่ยงไปจอดรถที่นางเลิ้ง กินข้าวเที่ยงไม่ทันจึงกินนมไป1แก้ว บ่าย3หิวกินนมไปอีก1กระป๋อง นั่งรอฉายแสงวันนี้คนเยอะมากกว่าจะเสร็จ18:00 แสบท้องอีกละกินนมไปอีก1กระป๋อง เวลาที่กินแต่นมจะแสบท้องเหมือนกระเพาะไม่มีอะไรย่อย สูตรการกินแบบข้าวครึ่งนึงนม1แก้วน่าจะลงตัวที่สุดละ เย็นฝืนกินข้าวกับต้มผักใส่วุ้นเส้นคลายแสบท้องไปได้เยอะ

              • หมอฟันบอกว่าฟันไม่ผุแต่แปรงไม่สะอาด (เอิ่มคือมันคลื่นไส้มาก แปรงนานไม่ไหวครับหมอ)
              • นัดอีกที2เดือนเอาฟลูออไรต์ไป3ขวดนะ


              28 กพ. มีนัดกับหมอจมูกเช้า+หมอคีโมตอนเย็น+ฉายแสงครั้งสุดท้ายตอนเย็น แปลว่าต้องออกจากบ้านไปหาหมอแล้วกลับมาก่อนเย็นจึงออกไปอีกรอบ long day again

              เมื่อคืนนอนตื่นบ่อยมากเจ็บคอจนตื่นต้องจิบน้ำบ่อยๆเล่นเอาเพลียไปทั้งวัน น้ำหนักบ่ายวันนี้เหลือ 56.6  เท่ากับลดไป1กิโล ต้องพยายามกินเพิ่ม มิฉะนั้นค่าเลือดจะตกแล้วทำให้ต้องไปให้เลือด เย็นมาเจอหมอคีโมเพื่อเช็คว่าพรุ่งนี้ให้คีโมได้ไหม

              • ค่าเลือดผ่านปริ่มๆ ค่าไตผ่าน
              • ปากเจ็บเป็นแผลมากขึ้นมาจากที่เติมคีโมเข้าไปอาทิตย์ที่แล้ว
              • ลิ้นชามาจากคีโมเช่นกัน
              • ปกติอาการเจ็บจะพีคสุดตอนท้ายๆ ระบมไปหมดคือช่วงนี้แหละ
              • 2อาทิตย์หลังฉายแสงจะเป็นช่วงเวลา critical ที่จะทำให้ไตวายเพราะปากจะเจ็บมากกินอะไรไม่ได้และชะล่าใจว่าจบคอร์สแล้ว แต่ความจริงรังสีกับคีโมยังทำงานต่อไปอีกระยะ
              • จะส่องกล้องหลังจากนี้1เดือน ตอนนี้ส่องไปไม่เห็นอะไรเพราะมันบวมหมด
              • จะทำmriหลังจากนี้3เดือน
              • หมอบอกว่าตามหลักเมื่อตรวจคราวหน้าควรจะหายแล้วเพราะเป็นระยะต้นๆ ถ้าไม่หายหมอบอกว่าปวดหัวกันเลยทีเดียว
              • ถ้ากินไม่ได้ น้ำหนักลด ค่าเลือดตก ค่าไตพุ่ง อาทิตย์หน้าต้องเรียกมา admit ให้น้ำเกลือให้เลือดกัน





              1 มีค. คีโมครั้งสุดท้ายแล้ว กินข้าวให้เรียบร้อยตอน 7โมงกว่าเพื่อออกจากบ้าน8โมงกว่า แต่วันนี้เจอรถติดกว่าจะถึง9โมงกว่า สายกว่าที่คิดแต่ยังพอรับได้ เที่ยงกินโจ้กที่ศูนย์อาหารตามด้วยนมอีก1กระป๋อง เข้าให้ยาตอนเที่ยงครึ่ง บ่าย4เริ่มหิวออกจากห้องยากินนมไป1กระป๋องก่อนกลับบ้าน เย็นกินข้าวกับไข่น้ำตามด้วยน้ำอีก1แก้ว เวลากินนมแสบปากมาก แสบชนิดน้ำตาไหลแต่ก็ต้องทนกินจนหมดแล้วเพื่อทำน้ำหนักและป้องกันค่าเลือดตก หมอบอกว่าเป็นสัปดาห์วิกฤต ต้องกินให้ได้ monitor บ่อยๆ ดูเองที่บ้านให้ดูสองอย่างคือ น้ำหนักเช้าเย็น และดื่มน้ำให้ได้ 2.5ลิตร ทุกวัน!!


              2 มีค. รีบตื่นมากินนมเพื่อทำน้ำหนัก คอยังเจ็บมากต่อไป ลิ้นชาเหมือนเดิม พยายามตื่นมาพ่นยาตอนกลางคืน ก็พอช่วยได้นิดหน่อย วันที่กินอาหารได้อร่อยที่สุดคือวันแรกของการให้คีโม ไม่ใช่เพราะคีโมหรอกนะแต่เป็นเพราะคีโมจากรอบที่แล้วมันหมดฤทธิ์ ส่วนของใหม่ที่ให้เมื่อวานยังไม่ทำงาน ท้องไส้ยังไม่ปั่นป่วน วันนี้จะเป็นวันที่กินอาหารได้ง่ายสุด ไม่มวนท้องไม่ปวดท้อง แต่พอพรุ่งนี้ท้องจะเริ่มไม่ย่อยจากนั้นน้ำหนักจะร่วงลง เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นวันที่ต้องอัดอาหารทุกอย่างที่กินได้ให้มากที่สุด แต่มีนัดกับหมอจีนตอนบ่าย กินข้าวเที่ยงไม่ทันก่อนออกจากบ้าน ไปรวบกินตอนกลับบ้านรวดเดียว ข้าวต้มหมูกับนม1แก้ว

              หมอจีน

              • ค่าเลือดอาทิตย์นี้ดีกว่าครั้งที่แล้ว ร่างกายกำลังฟื้นตัวช้าๆ
              • แผลในปากผุพอง ให้กินเหล่งเอี้ยงต่ออีก 3ห่อ
              • ยาต้มกินอีก1อาทิตย์



              3 มีค. ได้พักออกจากบ้าน1วัน น่าจะมีเวลาเคลียร์เมล์เคลียร์งานที่ค้างเยอะหน่อย

              น้ำหนักเช้านี้ 56.3 ขึ้นมาจากที่เมื่อวานกินได้ แผลในปากขยายมากขึ้น แต่ความเจ็บน้อยลง ตัวแผลเริ่มแบนและกระจายลง แปลได้ว่าเริ่มจะหายนิดหน่อยแล้ว เช้ากินข้าวต้มกับไข่เจียว ผัดผักบุ้ง ไม่ค่อยเจ็บแผลที่คอ กินนมตามก็แสบน้องลงแล้ว


              4 มีค. เสาร์ผ่านไปกับการกินๆ แล้วก้อนอนๆ หมดไปหนึ่งแบบไม่มีอะไร ปากคอเจ็บเท่าเมื่อวาน กินอะไรทีเจ็บน้ำตาไหล กินเสร็จไปนอนแก้เพลีย การกินยังเป็นเรื่องที่ทรมานที่สุดในแต่ละวัน


              5 มีค. อาทิตย์ผ่านอีกหนึ่งวันเช่นกัน ทรมานกับการกินแต่ละมื้อ กินซ้ำๆข้าวต้มมั่งโจ้กมั่ง วนไป เที่ยงกินเส้นเล็กน้ำ กินได้ครึ่งเดียวเพราะเหม็นน้ำมันเจียวสู้กินราเมงไม่ได้ลื่นคอกว่าเยอะ


              6 มีค. วันหยุดราชการไม่ต้องทำงาน นั่งๆ นอนๆ




              Monday, February 20, 2023

              NPC ตอนที่20 สัปดาห์ที่เจ็ดของการฉายแสง/คีโมครั้งที่5

              ในที่สุดก็เดินทางมาถึงสัปดาห์สุดท้ายแล้ว เหลือฉายแสงอีกแค่ 8 ครั้ง กับคีโม 2 ครั้ง ก็จะจบการรักษาแล้ว หลังฉายแสงครบ 33ครั้ง พยาบาลบอกว่าแม้จะหยุดฉายรังสีแล้วจะมีการทำงานของรังสีในระดับเซลล์ต่อไปอีกประมาณ 6-8สัปดาห์ เซลล์ที่หยุดการเติบโตจะค่อยสลายและยุบไปโดยกลไกของร่างกาย เราจะสามารถติดตามผลการรักษาอีกทีคือประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงจะทำ MRI แต่หมอดูคร่าวๆให้แล้วก้อนมันเริ่มเล็กลงไปบางส่วนแล้วแต่ยังไม่ชัดเจนจนฟันธงขนาดนั้น 

              คอเริ่มดำมากขึ้นดูน่าเกลียดน่ากลัวจริงเชียว


              20 กพ. เช้านี้แผลที่คอเริ่มใหญ่ขึ้น แผลที่ลิ้นเจ็บมากขึ้น มีแผลที่เพดานเพิ่มมาอีก3จุด นี่อาจจะเป็นผลมาจากที่งดยาจีนไป 3-4 วัน ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้ช้า บาดแผลที่เกิดขึ้นมันเลยเยอะสะสมเต็มปากไปหมด

              ตื่นมากินนมก่อนเลย1แก้ว อาหารเช้ากินข้าวต้มถั่ว เที่ยงกินโจ้ก บ่ายสามกินนมไป1แก้ว บ่ายๆไปฉายแสงวันนี้คนไม่เยอะได้คิวเร็วมาก ยังไม่ 17:00 เสร็จเรียบร้อยจึงไปเจาะเลือดต่อพรุ่งนี้จะได้เร็วๆ กลับถึงบ้านแค่ 18:30 กินข้าวสวยได้ครึ่งจานแล้วกินนมไปอีกแก้ว อาการปวดท้องไม่มีแต่มีอาการแน่นท้อง นั่งอึนๆมืนๆ ไปจน 21:00 ถึงเริ่มขยับตัวได้ พยายามฝืนกินยาจีนให้ได้เพราะเริ่มรู้ตัวว่าถ้างดอีกคอคงจะเจ็บมากขึ้นแน่ๆ ที่น่าสงสัยคือทำไมต้องเป็นทุกมื้อเย็น หรือเป็นเพราะยาเริ่มหมดฤทธิ์ตอนช่วงเย็นๆ


              21 กพ. ตื่นมากับอาการไม่สดชื่น มึนๆ งงๆ ง่วงๆ อาจเพราะเมื่อคืนกว่าจะหายแน่นท้องและได้นอนคือเลยเวลา 23:00 แถมนอนกระสับกระส่ายหลับไม่สนิทอีก อาการหลักๆทั่วไปวันนี้คันผิวหนังที่คอยิบๆ เกาเป็นหมาเลย ลิ้นเจ็บน้อยลง คอเจ็บเท่าเดิม น้ำหนักชั่งได้ 56.6 เริ่มขึ้นแล้ว 

              เช้ากินโจ๊กไข่แต่วันนี้กินขิงแล้วแสบปากต้องเขี่ยออก แต่ละวันมีอาการแต่ละอย่างที่ไม่ค่อยซ้ำ เปลี่ยนไปเรื่อยๆเลยแหะ เที่ยงกินข้าวต้มกับข้าวสามอย่าง ค่อยๆเคี้ยวไปกลืนลำบากแต่ต้องพยายามกลืน


              วันนี้นัดห้องฉายแสงไว้ 16:00 อาจจะต้องออกจากบ้านเร็วหน่อยเพราะฉายแสงแล้วต้องไปเจอหมอต่อ

              ผลเลือดวันนี้





              หมอคีโม

              • ประเมินช่องปากที่เป็นแผล ยังพอไหวสำหรับอาทิตย์นี้ แต่เป็นห่วงสำหรับอาทิตย์หน้า
              • ปากน่าจะเจ็บเพิ่มขึ้นในอาทิตย์นี้เพราะเป็นท้ายๆของการฉายแสงแล้ว
              • อาการปากเจ็บจะยังคงอยู่ไปอีกประมาณ2อาทิตย์หลังหยุดการฉายแสง แล้วจะเริ่มดีขึ้น
              • ให้เพิ่มเอนชัวร์เป็น 12ช้อน กิน3มื้อ เสริมจากข้าวปกติ3มื้อ ป้องกันน้ำหนักร่วงแล้วไตวาย


              22 กพ. วันนี้ต้องไปให้คีโม ชีวิตจะรีบเร่งหน่อยๆ ตื่นเช้ากินนม1แก้ว ตามด้วยข้าวต้มถ้วยเล็ก1ถ้วย ออกจากบ้าน 08:00 ไปถึงนางเลิ้ง 09:00 นั่งรถต่อไปรามาถึงเวลาประมาณ09:30 ทำเรื่องเข้าระบบเรียบร้อนั่งรอเวลาแล้วไปกินข้าวเที่ยง ได้โจ้กชามกลางมา1ชามกินได้หมดเลย วันนี้เจ็บลิ้นน้อยลงเยอะ เจ็บคอน้อยลงเช่นกัน เพิ่งกลับมากินยาจีนครบได้2วัน อาการกลับมาประคองตัวได้อีกครั้ง อยากจะสรุปฟันธงว่ายาจีนช่วยประคองอาการเห็นได้ชัด พอหยุด4วันแผลเริ่มเจ็บเยอะแต่พอกลับมากินต่อ แผลกลับมาดีขึ้นใหม่

              เย็นกินข้าวกับปลาทอด วันนี้ไม่ค่อยแน่นท้องแล้ว พรุ่งนี้หลังคีโมวันแรกอาการน่าจะค่อยๆเริ่มปวดท้องใหม่ต้องระวังการกินให้ตรงเวลาสุดๆ


              23 กพ. เช้านี้คอเริ่มเจ็บน้อยลง ลิ้นเจ็บนิดนึงถ้าไม่สังเกตคือไม่เจ็บแล้ว ทำให้กินข้าวได้ปกติขึ้น เช้ากินข้าวต้มถั่วกับไข่ต้ม เที่ยงกินโจ้กหมู เสร็จแล้วรีบออกจากบ้านไปหมอจีน

              ไปหาหมอจีน

              • อาการทั่วไปปกติดี
              • ยาชุดที่ใช้อยู่ลงตัวแล้ว
              • แผลในปากคงตัวดี
              • ชีพจรมีแรงดี อวัยวะภายในทำงานดี
              • น่าจะจบการฉายแสงได้ไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว

              พบหมอฉายแสง

              • อาการทั่วไปปกติดี ถ้าไม่มีอาการอะไรจะนัดอีกที 20 เมษาเลย
              • อย่าลืมบริหารปากและคอต่อไปอีก 1 เดือน
              • อีกประมาณ 2 อาทิตย์จะมีอาการคอบวมให้นวดคลึงไล่น้ำเหลือง

              เย็นอาการปวดท้องมาตามนัดตรงเวลาเป๊ะ ทำให้กินข้าวเย็นไม่ได้อีกละ มื้อเย็นวันนี้ได้แค่นมแก้วนึง

              24 กพ. น้ำหนักเช้านี้ 56.3 ไม่ลดอย่างที่คิด มื้อเช้ากินข้าวต้มถั่วไข่ มื้อเที่ยงกินเส้นหมี่ลูกชิ้น การกินอาหารเป็นเรื่องทรมานหลังการคีโมทุกมื้อเลย บ่ายๆ ออกไปฉายแสง เย็นกลับมากินข้าวไม่ได้ ง่วงนอนเหนื่อยหลับยาวตั้งแต่เข้าบ้าน ตื่นมากินนมไปแก้วนึงทนปวดท้องไปอีกพักใหญ่จึงค่อยลุกไปอาบน้ำนอน


              เสาร์อาทิตย์ได้พักอยู่บ้านปัญหาเรื่องกินยังกวนใจตลอด อาหารที่กินถ้ามีกลิ่นแรงจะเวียนหัว คลื่นไส้ พาลจะอ้วกตลอด กินได้แต่อาหารที่ไม่มีกลิ่นเช่นข้าวต้ม

              25 กพ. ตื่นเช้ารีบชั่งน้ำหนักดู เหลือ55.6 ไปตลาดซื้อของสดนิดหน่อยกลับมากินโจ้กกับนมแก้วนึง เที่ยงกินข้าวหน้าเป็ดที่ไม่รู้รสอะไรเลยกับนมอีกแก้วนึง เย็นกินข้าวสวยกับซุปมันฝรั่งตามด้วยนมอีกแก้วนึง สรุปวันนี้กินนมไป4แก้ว แต่ยาจีนมื้อเย็นกินไม่ไหว

              อาการสำลักยังคงเป็นบ่อยๆ นั่งเฉยๆก็สำลักน้ำลายได้ง่ายๆ การกินน้ำยังคงลำบากกลืนได้เป็นคำๆ แผลรอบคอเริ่มลอกเวลาดึงหนังออกมาใต้ผิวจะแสบๆหน่อย ถ้าดึงตัวที่แห้งลอกจะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่



              26 กพ. ไม่ค่อยเหม็นอาหารแล้ว แต่มีอาการลิ้นชากินอะไรๆไม่สะดวกแถมมีอาการมวนท้องเล็กน้อย การกินยังเป็นเรื่องทรมานในแต่ละวัน อาหารที่กินวันนี้ กินข้าวต้มปลาแห้งผัดผักได้1ถ้วย เที่ยงกินโจ้กไข่ บ่ายเวียนหัว นั่งๆนอนๆ แต่ไม่หลับ เย็นกินข้าวสวยกับมันฝรั่งต้ม ตามด้วยนมอีกแก้ว หมดไปอีกหนึ่งวันอันแสนน่าเบื่อ




              Monday, February 13, 2023

              NPC ตอนที่19 สัปดาห์ที่หกของการฉายแสง

              เหลืออีกแค่สองอาทิตย์ก็จะจบการฉายแสงแล้ว ส่วนคีโมเหลืออีกสองครั้งแต่จะมีอาการข้างเคียงไปราวๆสามสัปดาห์


              13 กพ. เริ่มต้นแผนการกินใหม่ด้วยการซื้อไข่ขาวผงเอามาชงดื่นแทนการกินไข่ขาวฟองที่กินได้แค่ไม่กี่วันก็เอียนไปหมด มีแผลที่โคนลิ้นเกิดขึ้นมา 2 จุด ทำให้กินข้าวได้ลำบากขึ้น ต้องพยายามทายาบ่อยๆ เอาให้หายเร็วๆ มิฉะนั้นจะกินข้าวได้น้อยลง แผลที่ลิ้นจะแย่กว่าที่แผลที่แก้มเพราะมันเจ็บตลอดเวลาที่กินแม้กระทั่งน้ำ เช้ากินข้าวต้มถั่วเหมือนเดิม เที่ยงกินมักกะโรนีได้แค่ครึ่งถ้วยเลยต้องกินนมเพิ่มอีก1แก้ว เย็นกินข้าวกับต้มฟักครึ่งจานตามด้วยนมอีก1แก้ว ชั่งน้ำหนักตอนเย็นได้ 57.2


              14 กพ. เช้านี้แผลที่ลิ้นสองจุดบานใหญ่มารวมกันเป็นจุดเดียวที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้เจ็บระบมไปหมดกว่าจะกินข้าวต้มหมดชามใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ชั่งน้ำหนักเช้าได้ 56.2 ถือว่าไม่แย่น้ำสำหรับการทำน้ำหนักเพื่อตรวจเลือดพรุ่งนี้ ปัญหาหลักตอนนี้ไม่ใช่เรื่องแผลแต่เป็นเรื่องเบื่ออาหาร เห็นอะไรก็ไม่อยากกินไปหมด เห็นอาหารแล้วเอียน คิดเรื่องกินแล้วจิตตก ส่วนหนึ่งเพราะรสชาติอาหารไม่มีเวลากินอะไรที่มันกลืนง่ายๆซ้ำๆบ่อยๆ จะกลายเป็นความเคยชินและความทรงจำที่แย่ พอมื้อต่อไปต้องกินอะไรที่รสชาติมันแย่ๆ ร่างกายก็จะต่อต้านออกมาในแบบไม่กิน กินไม่ได้ กินแล้วปฏิเสธ ส่วนรอยไหม้รอบคอเริ่มใหญ่ขึ้น เจ็บมากขึ้น และผิวหนังตึงตลอดเวลา รวมทั้งคันด้วย เวลาหันซ้ายหันขวาต้องระวังคอไปขูดกับคอเสื้อ อีกสักพักคงจะดีขึ้น

              ตอนเย็นกลับบ้านช้ามาก กว่าจะได้กินข้าว 19:40 กินเสร็จปวดท้องไปหมดอาการเก่ากลับมาก กว่ากระเพาะจะคลายปวดล่อไป 23:00 เล่นเอาเหนื่อยเลย


              15 กพ. เป็นวันที่วุ่นวายเรื่องกระเพาะมากที่สุด ตอนนี้ปัญหาใหม่คือ กินก็ปวด ไม่กินก็ปวด เรื่องหิวกับอิ่มไม่ต้องคุยเพราะไม่อยากกินเป็นทุนเดิม เช้ากินข้าวตุ๋นได้นิดหน่อย เที่ยงกินข้าวต้มตามด้วยนม กินเสร็จปวดท้องไปหมด บ่ายสามก่อนออกจากบ้านก็กินนมไปอีกแก้ว กินเสรจกระอักกระอ่วนไปตลอดบ่ายระหว่างที่รอฉายแสง วันนี้ได้ฉายเร็วมานิดนึงเข้าห้องไปตอน 17:40 เย็นกลับถึงบ้าน 18:40 กินข้าวไข่เจียวได้จานนึงแต่พอ 19:30 เริ่มปวดท้อง นั่งหมดแรงบนเก้าอี้ปวดยาวไปจนถึง 23:00 กว่าจะได้นอนเกือบเที่ยงคืน

              ส่วนเรื่องแผลในปากตอนนี้ที่คอไม่เจ็บแล้ว แผลที่ลิ้นก็เริ่มดีขึ้น รอยไหม้ที่คอเริ่มแห้งกลับกลายเป็นคันๆแสบๆแทน ก็ทนๆไปเหลือเวลาคันก็ใช้มือลูปเบาๆเอา เหลือฉายแสงอีกแค่ 8 ครั้ง กับคีโมอีกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น 




              16 กพ. เมื่อคืนนอนท่าไหนไม่รู้ตื่นมาคอเคล็ดเหมือนตกหมอนต้องบริหารคอแต่เช้า แถมตื่นมาพร้อมกับอาการเจ็บคอหอย (อีกละ) อาการเจ็บในช่องนี่มันจะเป็นๆหายๆ โดยหลักการคือเซลล์จะถูกทำลายไปจากการฉายแสง ตอนไหนที่เซลล์ตายเยอะก็จะเป็นแผลแดง พอผ่านไปสักวันหรือสองวันร่างกายจะสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนอาการก็จะหายเจ็บเป็นแบบนี้วนไปจนกว่าเนื้อมะเร็งบริเวณนั้นจะหมดไป

              วันนี้ต้องไปเจอหมอถ้าแก้เรื่องกระเพราะไม่ได้อาทิตย์หน้าน้ำหนักมีลดฮวบแน่นอน วันนี้มีเรื่องที่ต้องเล่าให้หมอฟังดังนี้

              • ลิ้นชาหนา รู้สึกเป็นฝ้าเยอะ ต้องคอยเองผ้าก๊อซขัดถูเนื้อเยื่อออกบ่อยๆ
              • เบื่ออาหารมากๆ ไม่อยากกินอะไรเลย
              • สำลักง่ายขึ้น กลืนยากขึ้น
              • เริ่มปรับเป็นเอนชัวร์วันละ40ช้อน และข้าวสองมื้อเล็กๆ
              • รอยไหม้ที่คอเริ่มลอกและคัน
              • มีอาการปวดท้องเหมือนเป็นโรคกระเพาะ หิวก็ปวด อิ่มก็ปวด

              หมอจีน

              • แผลในคอยังคงระดับที่น่าพอใจ
              • อวัยวะภายในยังทำงานมีแรงดี แต่ถ้าปวดท้องกินได้น้อยลงจะเริ่มหมดแรง
              • แผลในกระเพาะให้ลองกินน้ำผึ้งเปล่า1ช้อนโต๊ะกลืนตอนท้องว่างเพื่อช่วยลดกรดและรักษาแผล
              • จะเพิ่มยารักษาแผลในกระเพาะให้
              • ยาช่วยย่อยครั้งที่แล้วไม่มีผลต่อการเพิ่มกรดในกระเพาะหรือปวดท้อง ดังนั้นยาจีนไม่ต้องหยุดกินต่อได้

              หมอฉายแสง

              • คอที่เริ่มลอกอย่าเกาเพราะถ้าเป็นแผลจะหายยาก รังสีทำให้เซลล์ทุกอย่างหยุดทำงานและค่อยๆตายไป ดังนั้นจะต้องใช้เวลานานกว่าเซลล์ชุดใหม่จะเกิดขึ้น
              • รังสีแม้ว่าจะหยุดฉายไปแล้ว จะทำงานระดับเซลล์ต่อไปอีกราวๆ 6-8สัปดาห์ดังนั้นให้ดูแลร่างกายต่อไปให้ดีอีกระยะ
              • เหลือฉายแสงอีกนิดเดียว อดทนหน่อยใกล้จบแล้ว

              หมอคีโม

              • ที่ปวดท้องเป็นกระเพาะอักเสบ ผลมาจากยาแก้แพ้ที่ฉีดตอนให้คีโม ซึ่งไม่มีตัวเปลี่ยน และไม่ฉีดก็ไม่ได้ การให้ยาซ้ำๆอาจจะทำให้กระเพาะระคายเคืองยาวๆนานและอักเสบได้
              • จะเลื่อนการให้คีโมไปเป็นวันพุธหน้าเพื่อรักษากระเพาะก่อนในระยะ 5วันนี้
              • หมอบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นอาการนี้ รักษามา10ปีแทบไม่เจอ เป็น rare case จริงๆ
              • วันอังคารต้องเจาะเลือดอีกรอบเพื่อดูว่าค่าเลือดยังปกติไหม

              ให้คะแนนความปวดท้อง 8/10

              17 กพ. วันนี้ไม่ต้องไปฉายแสงเพราะเครื่องฉายเขาหยุดซ่อมบำรุงประจำปี และไม่ต้องไปให้คีโมด้วย ถือเป็นการหยุดพักรักษากระเพาะให้หายไวๆ เพราะออกจากบ้านจะควบคุมอาหารการกินได้ค่อนข้างลำบาก

              เช้าเริ่มกลับมากินข้าวต้มถั่วได้แค่มื้อเดียว เจ็บลิ้นอีกแล้ว เที่ยงเลยต้องกลับไปกินเอนชัวร์ต่อแต่รอบนี้เปลี่ยนสูตรเป็นกินสองแก้ว แก้วละ 8ช้อนเพื่อให้ใส่น้ำได้เยอะ เกรงว่าข้นไปจะทำให้ปวดท้อง ก้อไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก จังหวะนี้ต้องเดาและปรับเปลี่ยนไปก่อน แล้วค่อยมาสังเกตว่าหายหรือไม่ เมื่อคืนกินยาโรคกระเพาะชุดใหม่ มียาแก้ปวดมาให้ด้วยทำให้วันนี้ไม่ค่อยปวดมากเท่าเมื่อวาน แต่อาการยังพะอืดพะอมจะอ้วกมันทั้งวัน

              ให้คะแนนความปวดท้อง 3/10


              18 กพ. กินยาแก้ปวดมาสองวันแล้วอาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เช้ากินโจ้กได้ถ้วยเล็กๆ ถือว่าค่อยๆเริ่มกลับมากินได้ กระเพาะเริ่มทำงานได้ปกติขึ้นไม่มีท้องอืดเท่าไหร่แล้ว เที่ยงก็กินโจ้กที่เหลือจากตอนเช้า ส่วนเย็นกินข้าวต้มไข่เจียวกับผัดผัก วันนี้กินไข่ขาวได้ครบ5ฟองพอดี ปัญหาคือมื้อเย็นจะกินยาจีนไม่ได้มา2-3วันแล้ว เพราะทุกครั้งที่กินข้าวเยนเสร็จจะแน่นท้องกระอักกระอ่วนทุกครั้งไป อาการที่ตามมาคือเริ่มเจ็บคอหอยข้างใน แปลว่ายาจีนนี่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้แบบเห็นผลมากๆ พรุ่งนี้ต้อรีบกลับมากินต่อให้ครบ2มื้อ

              ให้คะแนนความปวดท้อง 2/10


              19 กพ.วันนี้ไม่ได้กินยาแก้ปวดแล้ว เหลือแค่กินยาลดกรดเท่านั้น เช้ากินข้าวได้ชามใหญ่ ถึงแม้มันจะไม่อร่อยแต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องกระเพาะ ยังพอฝืนกินได้บ้าง ใช้เวลากินไปเกือบ1ชั่วโมง เที่ยงออกจากบ้านไปกินราเมน ทำไปทำมา ในช่วงรักษานี่กินราเมนเป็นมื้อเที่ยงเกือบ50%เลยแหะ 

              เย็นกินนมหนึ่งแก้วกับกินข้าวอีกครึ่งจาน ชั่งน้ำหนักตอนสามทุ่มได้ 56.6 ยังไม่ขึ้น ต้องรีบปั้มน้ำหนักให้มากกว่านี้

              ให้คะแนนความปวดท้อง 1/10



              Monday, February 6, 2023

              NPC ตอนที่18 สัปดาห์ที่ห้าของการฉายแสง/คีโมครั้งที่4

               6 กพ. วันนี้เริ่มมีอาการปากอ้าลำบาก ผิวหนังบริเวณรอบคอเริ่มไหม้เป็นสีคล้ำและมีแผลบางจุด ต้องบอกตัวเองว่าอย่าเกาแรง และต้องคอยบริหารปากและคอให้ตรงรอบเวลาอย่างสม่ำเสมอ ปัญหาของวันนี้คือพอไม่สบายท้องมักจะลืมกินน้ำ ทำให้ช่วงเช้าได้น้ำไม่ครบ 1 ลิตร ต้องยกยอดไปรวบกินตอนบ่าย

              เช้ากินข้าวต้มธัญพืชได้หมดชามแต่กินไข่ต้มไม่ได้เลยอาการแบบเหม็นอาหาร เที่ยงกินบะหมี่เกี๊ยวที่เคยชอบกัน เอาจริงกินได้แค่ครึ่งเดียว ส่วนเย็นนี่กินไม่ได้เลย อาศัยนม6 ช้อนช่วยบรรเทาไปอีกมื้อ


              7 กพ. เรื่องมวนท้องนี่เป็นอะไรที่ทรมานมาก ปากจืดยังพอฝืนกินข้าวได้ แต่ท้องมวนนี้ฝืนไม่ได้ เมื่อวานแทบไม่ได้กินอะไรก็เพราะท้องนี่แหละ แต่อย่างไรก็ตามต้องพยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างต่ำ 2 ลิตรเพื่อรักษาไตเอาไว้

              วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ท้องไม่มวนแล้วแต่ความอยากกินยังไม่มา พยายามกินข้าวต้มตอนเช้ากับไข่ให้ได้ตามเป้า ปากเริ่มตึงมากขึ้น เป็นแผลมากขึ้นแล้ว ลิ้นชาไปหมด กินน้ำเริ่มสำลักแต่มักจะเป็นช่วงตื่นตอนที่ไม่ได้ขยับแล้วมันแข็งเกร็งในปาก ชีวิตช่วงนี้ลำบากสุดคือเรื่องกินนี่แหละ ชีวิตติดคอนต้องกินเยอะๆแต่กินมากๆไม่ได้ร่างกายไม่รับเลยไม่รู้ว่าจะกินเยอะหรือกินน้อยดี เที่ยงกินข้าวไข่เจียวนั่งฝืนกินข้าวคำน้ำคำไปจนหมด ปากแห้งกินข้าวสวยกลืนยากต้องใช้น้ำช่วย แต่คอหอยยังไม่เจ็บเท่าไหร่ อาจจะได้อานิสงส์จากยาจีนช่วยผยุงไว้ เย็นแม่บ้านทำมักกะโรนีให้เป็นเส้นต้มกับหมูสับใส่หัวหอมแครอท กินง่ายกว่าข้าวเยอะ

              วันนี้ฉายแสงเป็นครั้งที่19แล้ว ครึ่งทางแรกรุ้สึกผ่านไปไวมากแต่ช่วยนี้เวลาหมุนรอบตัวเองช้ามาก กว่าจะผ่านไปแต่ละมื้อแต่ละชั่วโมงระบมท้องไปหมด แผลที่ปากเริ่มมากขึ้นผุพองไปเยอะแล้วต้องระวังเรื่องความสะอาดปากเป็นพิเศษ


              8 กพ. วันนี้ไม่มวนท้องแล้ว เริ่มลุกเดินได้บ้าง ตรงตามแพทเทิร์นของรอบคีโม ปากเป็นแผลเยอะกินอะไรก็ลำบาก เวลากลืนเริ่มสำลักโดยเฉพาะน้ำและนม ยาสีฟันที่เคยใช้ตอนนี้ใช้ไม่ได้เลยแสบมากๆ ผิวในปากบางลงเยอะคงต้องไปหายาสีฟันเด็กมาใช้ชั่วคราว คอที่ไหม้เป็นรอยดำ วันนี้ตกสะเก็ดเป็นแผลยิ่งทำให้ดำกว่าเดิมแต่ดีคือไม่แสบแล้ว

              เช้ากินข้าวต้มถั่วเหมือนเดิม เป็นอาหารเดียวที่กินแล้วมีรสชาติ แปลกดี กลางวันกินราดหน้าได้หมดชาม เย็นกินต้มมักกะโรนีหมดชามเช่นกัน แต่กินไข่ได้แค่ฟองเดียว วันนี้ได้ฉายแสงตอน 16:40 ไวมากๆ กลับถึงบ้านตอน 18:10 แบบไม่เคยมาก่อน ผ่านไปแล้ว 20 ครั้งพอดี เหลืออีกแค่ 13 ครั้ง





              9 กพ. ปากเจ็บเริ่มดีขึ้นคงเพราะทาเสตียรอยด์ไปเมื่อคืน หมอบอกว่าอย่าทาเยอะกลัวจะเป็นเชื้อราที่ปาก กินข้าวเริ่มกินได้เยอะ คงต้องทำน้ำหนักด่วนๆ ในหนึ่งอาทิตย์มีเวลากินแค่ วันพุธ พฤหัส ศุกร์ และเสาร์ครึ่งวัน ที่เหลือจะอ้วกเพราะคีโม  เช้ากินข้าวต้มถั่วเป็นอาหารหลักที่อร่อยเพราะมีรสชาติ เที่ยงกินข้าวหน้าไก่กินด้วยความทรมานอย่างสุดซึ้ง เย็นกินข้าวไข่ข้นกุ้ง ที่เอ่ยมานี่อร่อยแต่หน้าตารสชาติคือไร้รสสนิท

              วันนี้มีคิวหาหมอสามท่านรวดเล่าอาการเหมือนกันว่าช่วงนี้มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหาร

              • หลังคีโมวันศุกร์จะกินข้าวได้ปกติ
              • วันเสาร์ยังปกติ ตกเย็นเริ่มกินข้าวไม่ได้
              • วันอาทิตย์จะกินข้าวไม่ได้เหมือนอาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อย
              • วันจันทร์เริ่มดีขึ้นแต่ยังกินข้าวลำบาก
              • วันอังคารดีขึ้นอีกนิด มื้อเย็นเริ่มปกติ
              • วันพุธกินได้ปกติแต่ยังกินได้ไม่เยอะ บ่ายต้องไปตรวจเลือด
              • วันพฤหัสกินข้าวได้กินนมได้ อัดอาหารทำน้ำหนัก
              • วันศุกร์เช้ากินได้ เที่ยงกินได้ ให้คีโมเสร็จเข้า cycle รอบใหม่

              หมอจีน

              • ปากมีแผลนิดหน่อยยังไม่น่าเป็นห่วง
              • ค่าเลือดจางลงไปอีกในระดับ HCT 35% แต่ยังไม่ต่ำกว่า 25% น่าจะให้คีโมได้
              • จะเพิ่มยาช่วยระบบย่อยให้
              • อย่าลืมบริหารปากและคอ

              หมอฉายแสง

              • แผลในคอกับแผลที่ดีขึ้นแล้วให้หยุดทายาได้
              • รอยไหม้รอบคอ อย่าไปแกะเกา

              หมอคีโม

              • ค่าเลือดต่ำกว่าเกณฑ์คนปกติ แต่ปกติของคนให้คีโม พรุ่งนี้ให้ยาได้
              • หมอบอกว่าสำหรับเคสนี้การรักษาจะเป็นการรักษาหลัก ดังนั้นถ้าค่าเลือดแย่จนฉายแสงไม่ไม่ได้ คีโมจะต้องเป็นถอย ดังนั้นค่าเลือดจะใช้ประกอบทั้งสองการรักษาไปพร้อมๆกัน
              • พรุ่งนี้จะเป็นการคีโมครั้งที่4 ในขนาดเท่าเดิมคือ 40mg ต่อ m^2 ทำให้ยาสะสม4ครั้งคือ 160mg
              • แผนการให้ยาคีโมคือ 160-250 mg เป็นช่วงที่งานวิจัยบอกว่าให้ผลตอบสนองดีต่อคนไทยมากที่สุด
              • แปลความจากหมอคือตอนนี้ได้ยาคีโมครบขั้นต่ำไปแล้ว ถ้าได้ครั้งที่5ด้วยขนาดยาเดิมจะถือว่าบรรลุเป้าแรก และถ้าได้ครบ6ครั้งน่าจะไม่ต้องให้ครั้งที่7
              • งานวิจัยบอกว่าผลตอบสนองดีมักจะทำให้หายขาด คือเซลล์มะเร็งถูกแยกและกำจัดออกไปได้หมดทำให้โอกาสแบ่งตัวเพิ่มรอบใหม่ไม่มี หมอบอกว่าถ้าจะกลับเป็นขึ้นใหม่อันนี้แล้วแต่ดวงละ ยังไม่มีหลักฐานบ่งบอกความสัมพันธ์และสาเหตุที่ชัดได้
              • วันนี้น้ำหนัก57.85 กก ผ่านเกณฑ์ ยังไม่โดนใส่สายอาหาร (รอดไป)
              • ถ้ายังกินได้ต่อเนื่องและรักษาน้ำหนักคงที่แบบนี้ได้อีก2 สัปดาห์ คงจะไม่ต้องใส่สายอาหาร
              • ปีที่แล้วทั้งปีมีผู้รอดไม่ต้องใส่สายอาหารทั้งหมด1คน ปีนี้ยังไม่มีผู้รอดไม่ต้องใส่สายอาหาร
              • เรื่องเบื่ออาหาร กินแล้วไม่ย่อย อาจจะมีผลมาจากยาแก้แพ้ที่กินก่อนนอน ให้ทดลองกินเหลือครึ่งเม็ด ช่วงเวลากลางวันอย่านั่งเฉยๆ ให้ไปเดินออกกำลังแม่จะเพลียหรือง่วง เพื่อให้ร่างกานขยับและเพิ่มความอยากอาหาร
              • เมื่อลดยาแก้แพ้แล้วคลื่นไส้อาเจียน ให้ใช้วิธีกินยาลดคลื่นไส้แทน ซึ่งจะมีผลท้องผูก แล้วค่อยไปแก้เรื่องท้องผูกภายหลัง


              10 กพ. เช้ามาปากที่เจ็บดีขึ้นเรื่อยๆ เอาจริงๆร่างกายเราซ่อมแซมตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่เทียบกันว่าระหว่างเซลล์ที่ตายไปจากการรักษาจะได้รับการซ่อมแซมทดแทนทันเวลาไหมถ้าไม่ทันแผลก็ไม่หาย จากข้อมูลที่หาไว้เคยกลัวว่าปากเป็นแผลจะเป็นนานตลอดเวลาที่รักษาจะเจ็บเป็นระยะเวลานาน แต่ถ้าเราดูแลร่างกายดีดี กินอาหารให้ครบ กินวิตามินช่วยเสริม ร่างกายที่แข็งแรงเพียงพอ จะช่วยให้ฟื้นฟูได้ไวจริงๆ

              อาหารวันนี้ดร่อยสุดในรอบสัปดาห์ แม้จะรสจืดเหมือนเดิมแต่อย่างน้อยยังมีความอยากกินอาหาร อาจเป็นเพราะมื้อเช้ากับเที่ยงมีระยะเวลาห่างจากยาคีโมครั้งที่แล้วมากสุด พอหลังจากให้คีโมวันนี้ความอยากอาหารจะค่อยลดลงจะเบื่ออาหารในวันอังคาร ตื่นมากินนมแก้วนึง เช้ากินข้าวต้มถั่ว เที่ยงกินเส้นหมี่น้ำ เย็นกินบะหมี่ราชวงศ์ แล้วตามด้วยนมอีก1แก้วกินได้ดีทุกมื้อเลย


              11 กพ. ฉายแสงครบไปแล้ว 22ครั้ง เหลืออีกแค่ 11ครั้ง วันนี้พัฒนาการของการฟื้นตัวค่อนข้างดี 

              • แผลในคอที่แดงไม่แดงแล้ว อาจมีแผลขาวๆแต่ถ้าไม่แดงมันจะไม่เจ็บ 
              • แผลในจมูกที่เกิดเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ววันนี้หายแล้วไม่มีเลือดออกแม้จะมีแผลใหม่เกิดขึ้นแต่เลือดออกน้อยกว่าพอสมควร
              • รอยไหม้ที่คอเริ่มลอกแปลว่าไม่ไหม้เยอะไปกว่านี้เท่าไหร่แล้ว 
              • ดูเหมือนการเพิ่มไข่แดงอาทิตย์ที่แล้วจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นมานิดนึง



              การกินอาหารวันนี้เช้าเที่ยงยังปกติ ต้องไปลุ้นพรุ่งนี้ว่าจะเดี้ยงแค่ไหน


              12 กพ. เมื่อคืนหลังจากปรับยาเหลือครึ่งเม็ด ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้เยอะขึ้นพอสมควร ต้องกินยาเม็ดเหลืองเพื่อช่วยลดอาการคลื่นไส้ก่อนนอน ระยะเวลากว่ายาจะออกฤทธิ์คือ 2 ชํ่วโมง ก้อนอนพื้นไปก่อนเผื่อๆไว้ เกิดอาเจียนจะไม่เลอะเตียงนอน

              ชีวิตช่วงเช้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการง่วงนอนยังมีอยู่แต่พอไปนอนกลับไม่หลับป๊อกเหมือน3ครั้งที่ผ่านมา ง่วงจริงแต่ไม่หลับทำให้สามารถฝืนลุกไปกิจกรรมอื่นๆได้ พอทำกิจกรรมได้อาการท้องอืดหรือมวนท้องก็น้อยลง เช้ากินข้าวต้มถั่ว เที่ยงกินสุกี้ชาม แล้วไปเดินแม็คโครซื้อของเข้าบ้าน โดยรวมๆชีวิตดีขึ้นเยอะ แต่เย็นอาการมวนท้องหนักๆกลับมาตรงเวลา กินข้าวได้แค่ 2-3 ช้อนซึ่งดีกว่าที่ผ่านมาคือกินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ กินข้าวเสร็จคลื่นไส้เบาๆจึงกินยาเม็ดเหลืองไป 1 เม็ด จบสัปดาห์ไปด้วยดี